ศึกทวงคืนวัด! ‘ชาวน้ำโมง จ.หนองคาย’ หมดไปร่วม 10 ล้าน หวังกู้วัดร้างเป็นศูนย์รวมจิตใจ กลับถูก ‘อดีตขรก. ยศร้อยตรี’ ชิงขออนุญาตปฏิสังขรณ์ – วอน องค์การสืบสวนการทุจริต ช่วย
องค์การสืบสวนการทุจริต (FIO) พร้อมคณะกรรมการภาคอีสานตอนบน ลงพื้นที่รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวฐานรากตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย รับเรื่องร้องทุกข์เพื่อช่วยชาวบ้านทวงวัดคืน
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ดร.สุขอนันต์ (ก้องภพ) วังสุนทร ประธานกรรมการบริหาร องค์การสืบสวนการทุจริต (FIO) พร้อมคณะกรรมการภาคอีสานตอนบน ลงพื้นที่รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านน้ำโมง ในการทวงคืนวัด
สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2560 ชาวบ้านร่วมกับพระอาจารย์นักพัฒนารูปหนึ่ง ได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดร้าง ชื่อวัดดอนน้อย เพื่อหวังจะได้ยกฐานะเป็นวัด มีพระที่ตนเองเคารพนับถือมาจำพรรษา จะได้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวน้ำโมง โดยชาวบ้านระบุว่า หมดเงิน หมดแรง บริจาคที่ดินจับจองของตนเอง ให้วัด เพื่อขอออกโฉนดที่ดินประมาณ 8 ไร่ จากที่ดินเดิมของวัด มีเพียง 25 ตารางวา รวมแล้วมูลค่าในการปฏิสังขรณ์หมดไปกว่า 10 ล้านบาท
ต่อมา พ.ศ.2563 ชาวบ้านทราบว่า จะต้องไปขออนุญาตปฏิสังขรณ์วัดร้าง ต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองคาย จึงได้มอบหมายตัวแทนไปยื่นขออนุญาต โดยมีเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ ได้เซ็นเห็นชอบในแบบฟอร์มการขออนุญาตแล้ว จึงได้นำแบบฟอร์มการขออนุญาตไปยื่นต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองคาย แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ให้กลับไปแก้ไขใหม่ ตัวแทนจึงนำเอกสารมาแก้ไขใหม่ หลังจากแก้ไขแล้วกลับไปยื่นใหม่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองคาย แจ้งว่า ไม่สามารถอนุญาตให้ตัวแทนชาวบ้านได้ เพราะได้อนุญาตให้บุคคลอื่นไปแล้ว
จากนั้น ชาวบ้านพยายามค้นหา จนพบเอกสาร แบบฟอร์มการขออนุญาตของบุคคลดังกล่าว ซึ่งเป็นการขออนุญาตปี พ.ศ. 2564 หลังจากชาวบ้านน้ำโมงไปยื่นขอ 1 ปี มีข้าราชการบำนาญ ยศร้อยตรี จากจังหวัดเลย เป็นผู้ขออนุญาตปฏิสังขรณ์วัดดอนน้อย (ร้าง) ทำให้ชาวบ้านทั้งตำบลต่างพากันมึนงงและเกิดความสงสัย เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่มีใครรู้จัก และไม่เคยมีส่วนร่วมใดๆ กับชาวบ้านในการปฏิสังขรณ์วัดดอนน้อย (ร้าง)
ทั้งนี้ ในเอกสารระบุว่าเมื่อ พ.ศ.2565 จังหวัดหนองคาย ได้ส่งหนังสือการเห็นชอบการขออนุญาตปฏิสังขรณ์วัดดอนน้อย (ร้าง) ของร้อยตรีจากจังหวัดเลย ไปให้มหาเถรสมาคมอนุญาตแล้ว ชาวบ้านพยายามต่อสู้ ร้องเรียนไปหลายแห่ง แต่ก็ไม่เป็นผล ชาวบ้านทั้งตำบลเกิดความทุกข์ หมดที่พึ่ง จนในที่สุด ดร.ดวงเนตร ปัญญาใจ ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนร่วมกับการปฏิสังขรณ์วัดดอนน้อย ได้แจ้งให้ชาวบ้านร้องทุกข์มายัง ดร.สุขอนันต์ วังสุนทร ประธาน FIO
จากข้อมูลและเอกสารที่องค์การสืบสวนการทุจริต (FIO) ได้รับจากชาวบ้านและข้อมูลเชิงลึก มีความสงสัยถึงความไม่ชอบธรรม และชาวบ้านรู้สึกว่าเป็นการข่มเหงจิตใจของชาวบ้านตำบลน้ำโมง ทั้งยังมองว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังในการสั่งการเป็นถึงพระผู้ใหญ่สายธรรมยุตในจังหวัด ที่กำลังไล่ช็อปปิ้งวัดร้าง เพื่อสร้างปารมีแข่งพระมหานิกาย
ดร.สุขอนันต์ วังสุนทร ประธาน FIO กล่าวว่า จากการพูดคุยกับชาวบ้าน ตนสงสารชาวบ้านที่ถูกพระผู้ใหญ่สายธรรมยุตทำกับชาวบ้านเหล่านี้ ชาวบ้านบอกกับตนว่า จะขอต่อสู้และรักษาวัดดอนน้อย ให้เป็นวัดของชาวบ้านน้ำโมง และมหานิกาย จนถึงที่สุด ถ้าองค์การสืบสวนการทุจริต (FIO) ยืนเคียงข้างพวกเขา และตนก็ให้สัญญาใจกับชาวบ้านว่า จะขอยืนเคียงข้างชาวตำบลน้ำโมงในการทวงคืนความยุติธรรม ความชอบธรรม ไปพร้อมกับพวกชาวบ้าน
“ยิ่งเป็นพระ เป็นข้าราชการ มาทำข่มเหงจิตใจของชาวบ้าน ยิ่งยอมไม่ได้ จะดำเนินการช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้ชาวตำบลน้ำโมง ผมเป็นสายบุญอยู่แล้ว จะร่วมกับชาวบ้านจัดการกับพระและข้าราชการที่กัดกินศาสนาและสังคมไทย สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านให้ถึงที่สุด โดยเบื้องต้นจะทำหนังสือคัดค้านการให้อนุญาตไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขานุการมหาเถรสมาคม และกำลังรวบรวมหลักเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าพนักงานของรัฐทุกคนที่มีลงนามเห็นชอบในใบขออนุญาตปฏิสังขรณ์วัดดอนน้อย (ร้าง) ของร้อยตรีจากจังหวัดเลย” ดร.สุขอนันต์เผย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่
