เผยแพร่:
ปรับปรุง:
หนองคาย – ทหารสนธิกำลังหลายฝ่ายในจังหวัดหนองคายจับหนุ่มนนทบุรี พร้อมของกลางยาไอซ์บิ๊กล็อตหนัก 1 ตัน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เผยปัญหาลักลอบขนยาเสพติดแนวชายแดนอีสานติดน้ำโขงยังน่าเป็นห่วง
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (16 ก.พ.) ที่หน้าที่ว่าการอำเภอสังคม จ.หนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.กกล.) พ.ต.อ.ออมสิณ บุญญานุสนธ์ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย นายสุนทร ชื่นศิริ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร นรข. ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ภาค 4 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายวรรณะ บุญทองดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/1 ถนนประชาชื่นนนทบุรี ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง ไอซ์ 1,000 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท และรถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮบ 5448 กรุงเทพมหานคร
พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 15 ก.พ.64 เจ้าหน้าที่ทหารหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 1 กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 1 กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 2 ร่วมกับชุดปฏิบัติการข่าวที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบส่งมอบยาเสพติดบริเวณริมแม่น้ำโขง ด้านข้าง อบต.สังคม จ.หนองคาย จึงได้สนธิกำลังกับหน่วยงานข้างเคียงเข้าทำการลาดตระเวน เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ไม่นานก็พบกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันลำเลียงกระสอบจำนวนมากขึ้นจากเรือมาวางไว้ริมแม่น้ำโขง
ขณะเดียวกัน เห็นรถตู้คันหนึ่งขับเข้ามาจอด จากนั้นกลุ่มบุคคลได้ช่วยกันขนกระสอบขึ้นรถตู้ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่กลุ่มบุคคลเหล่านั้นได้พากันทิ้งของกลางแล้วหลบหนีไปได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าภายในกระสอบเป็นยาไอซ์ จึงได้ตรวจยึดไว้ก่อน
ต่อมา เวลาราวเที่ยงคืนเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนพบนายวรรณะ บุญทองดี ท่าทางต้องสงสัยอยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุจึงสอบถาม จนนายวรรณะ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนมารับยาไอซ์ โดยจะนำเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ และได้ค่าจ้างในการขนย้ายยาเสพติด 50,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังคม ดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมยาไอซ์ในครั้งนี้ถือเป็นการตรวจยึดจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดใน จ.หนองคาย นอกเหนือจากยาบ้าที่เคยจับกุมได้มาก่อนหน้านี้ ทำให้พบว่าสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ตามแนวชายแดนด้านที่มีแม่น้ำโขงกั้นเป็นแนวเขตแดนธรรมชาติยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีพื้นที่แม่น้ำโขงทอดยาวและมีช่องทางธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ทำให้ง่ายต่อการลักลอบกระทำความผิด
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดหรือสิ่งต้องสงสัยให้เจ้าหน้าที่ทราบเพื่อเข้าตรวจสอบและสกัดกั้นการกระทำผิดได้ทันท่วงที