20 มี.ค. 64 – นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า วันที่ 19 มีนาคม สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) นำโดย Gwen Robinson ประธานสมาคมฯ จากสื่อ Nikkei Asia , Mr.Jonathan Head จากสื่อ BBC รองประธานสมาคมฯ Anneli Langerak จากสื่อ De Telegraaf รองประธานสมาคมฯ และสื่อหลักต่างประเทศอีกหลายสำนัก ได้เชิญพรรคเพื่อไทย โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค ด้านเศรษฐกิจ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย๋ ส.ส.หนองคาย และคณะทำงานเศรษฐกิจ และ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค และผู้อำนายการศูนย์นโยบายฯ เข้าร่วมทานข้าวกลางวันและหารือในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศ (FCCT)
โดยสื่อต่างประเทศได้ให้ความสนใจกับทิศทางของพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้อธิบายว่า พรรคเพื่อไทยหลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารแล้ว พรรคมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างมาก ทิศทางพรรคเป็นไปในแนวทางที่ดี ซึ่งเห็นได้จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมาที่พรรคทำได้ดี และพรรคเพื่อไทยไม่ได้ห่วงผู้ที่ออกไปจะเป็นปัญหาแย่งความนิยมกับพรรค โดยพรรคเพื่อไทยต้องแข่งกับตัวเองเพื่อปรับปรุงและสร้างความนิยมในหมู่ประชาชนทุกกลุ่มให้มากที่สุด
สื่อต่างประเทศได้สอบถามถึงนโยบายของพรรค ซึ่งนายพิชัย ได้ตอบว่า พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายเศรษฐกิจในการเลือกตั้งคราวหน้าที่โดนใจประชาชนอย่างแน่นอน โดยจะเป็นนโยบายใหม่ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงประเทศเพื่อให้เข้ากับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และเชื่อว่าเมื่อถึงช่วงเลือกตั้งใหม่เศรษฐกิจไทยจะทรุดหนักสุดขีด และพรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคเดียวที่ประชาชนจะฝากความหวังได้ ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐกลับไม่ทำนโยบายตามที่ได้หาเสียงเลยแม้แต่นโยบายเดียว แม้กระทั่งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลยังถูกโหวตให้ตกไป แต่รัฐบาลกลับไม่รับผิดชอบ ทั้งที่เป็นแนวทางที่รัฐบาลร่วมเสนอมาเองด้วย โดยนายประเสริฐ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เชื่อมั่นว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งคราวหน้าจะทำให้พรรคเพื่อไทยชนะท่วมท้นอย่างแน่นอน โดยจะมีนโยบายที่โดนใจคนรุ่นใหม่ด้วย
สื่อต่างประเทศยังเป็นห่วงว่าหากไม่สามารถแก้ไขธรรมนูญ การเมืองและเศรษฐกิจไทยจะย่ำแย่ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เห็นตรงกัน โดยนายพิชัย แสดงความเห็นว่า สถานการณ์ไทยไม่ได้ต่างจากประเทศพม่า แต่ไทยอาจจะยังดีกว่าในตอนนี้เพราะยังมีบุญเก่าอยู่ แต่หากปล่อยไว้นานสถานการณ์ไทยจะพัฒนาต่อไปไม่ต่างจากพม่าที่ทรุดลงเรื่อยๆ โดยนายประเสริฐ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า พรรคเพื่อไทยจะเร่งดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด อีกทั้งสื่อต่างประเทศยังเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้เห็นต่างจากรัฐบาลที่ถูกจับและกักขังอยู่ว่าอาจจะมีการทำร้ายถึงขนาดเอาชีวิตได้ ซึ่งนายพิชัยก็แสดงความเป็นห่วงเช่นกันจากเหตุการณ์การย้ายผู้ต้องหากลางดึก
ในสถานการณ์ความไม่สงบของประเทศพม่าที่กำลังย่ำแย่อยู่ในปัจจุบัน สื่อต่างประเทศอยากเห็นประเทศไทยเป็นตัวกลางเจรจาหาทางออกระหว่างทหารพม่าและประชาชนพม่าที่กำลังลุกฮือกันทั้งประเทศ ซึ่งนายพิชัยเห็นว่าเป็นเรื่องยากเพราะรัฐบาลไทยปัจจุบันมีพลเอกประยุทธ์ที่มาจากการปฏิวัติเหมือนกันจะไม่สามารถเจรจาได้ หากไทยเปลี่ยนรัฐบาล ไทยถึงจะสามารถทำได้ ทั้งนี้นายพิชัยกล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าผู้ที่เหมาะสมที่จะสามารถเจรจาได้น่าจะเป็น คุณ Tony ใน Clubhouse ที่ได้พูดเรื่องพม่านี้เมื่อวันก่อนใน Clubhouse เพราะน่าจะรู้จักและเข้าใจสถานการณ์ของทุกฝ่ายได้ดี ซึ่ง Jonathan Head ของ BBC รองประธานสมาคมฯ ค่อนข้างเห็นด้วยเพราะยังจำได้ว่าเคยไปเยือนพม่าพร้อมนาย Tony เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบและอนุมัติจากทุกฝ่ายทั้ง UN, USA, EU และ ประเทศจีนด้วย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยอยากเห็นความสงบในประเทศพม่าและไม่อยากเห็นประเทศไทยต้องมีปัญหาตามรอยแบบประเทศพม่า และอยากให้สื่อต่างประเทศได้ให้ความสนใจในปัญหาของไทยควบคู่ไปกับปัญหาของประเทศพม่าด้วย