เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.ท.มนู เมฆหมอก รองผบ.ตร. ผู้อำนวยการศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผบ.ตร.
พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ท.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการทลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ในรอบ 6 เดือน ยึดทรัพย์กว่า 2,400 ล้านบาท
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทุกครั้งการจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่แต่ละครั้ง พบกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดยังคงใช้พื้นที่ชายแดนภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเส้นทางหลักในการลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเพื่อนบ้านมีฐานการผลิตยาเสพติดที่สำคัญ คือ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จึงเอื้ออำนวยต่อการลำเลียงเข้ามายังภาคเหนือในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาด้าน จังหวัดเลย , หนองคาย , บึงกาฬและนครพนม เป็นส่วนใหญ่ก่อนจะลำเลียงเข้ามาพักไว้ในพื้นที่ตอนในของประเทศบริเวณรอยต่อพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ประกอบกับยุคเทคโนโลยีใหม่ขบวนการค้ายา จึงใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางซื้อขายยาและใช้ระบบขนส่ง Logistics ในการลำเลียงเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
สาเหตุสืบเนื่องจากความไม่สงบทางการเมืองในประเทศเมียนมามีส่วนทำให้ยาเสพติดปริมาณมหาศาลถูกผลักดันออกจากแหล่งผลิต แหล่งพักการลำเลียงแต่ละครั้งมีปริมาณยาเสพติดมากขึ้น
“อีกทั้งรัฐบาลได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มสำหรับการเดินทางเข้า-ออกประเทศ บริเวณด่านพรมแดนและช่องทางธรรมชาติ รวมถึงการตรวจสอบโรคอย่างเข้มงวดตามเส้นทางคมนาคมระหว่างจังหวัดในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้การจับกุมแต่ละครั้งตรวจยึดยาเสพติดได้มากขึ้น” พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว