นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากนำร่องเปิดภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม และสมุย พลัส โมเดล ครอบคลุมเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมาแล้วนั้น ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทบทวนการเปิดพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยใหม่ทั้งหมด เนื่องจากในบางจังหวัดอาจยังเปิดรับนักท่องเที่ยวไม่ได้ เพราะพบตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวนมาก ทำให้หากเปิดไปแล้วอาจเกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะการระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหม่จากการท่องเที่ยวได้
“ปัจจุบันมีจังหวัดที่กำหนดเปิดแน่นอนแล้ว 4 จังหวัด คือ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ที่เปิดไปแล้ว ส่วนกระบี่ ในพื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล รวมถึงพังงา พื้นที่เขาหลัก และเกาะยาว กำหนดเปิดในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งจะพยายามผลักดันให้เปิดในพื้นที่เกาะให้ได้ก่อน เพราะควบคุมการเดินทางได้ง่ายมากกว่าพื้นที่บก” นายพิพัฒน์กล่าว
นายพิพัฒน์กล่าวว่า สำหรับเดือนตุลาคมนี้ กำหนดที่จะเปิดจังหวัดเชียงใหม่ พัทยา บุรีรัมย์ กรุงเทพฯ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ให้ครบ 10 จังหวัด แต่หากสถานการณ์การระบาดโควิดในพื้นที่เหล่านี้ยังไม่คลายตัวลง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เตรียมพร้อมหาทางเปิดพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ที่มีความพร้อมแล้ว ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยให้ได้มากที่สุด โดยเน้นเฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาดโควิดอยู่ในระดับต่ำ อาทิ จังหวัดภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งพบว่ามีหลายจังหวัดที่ตัวเลขการแพร่ระบาดน้อย ทำให้การพิจารณาเปิดพื้นที่รับต่างชาติต่อจากนี้ อาจไม่ต้องทำทั้งหมดใน 10 จังหวัดนำร่องตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้ก็ได้ อาทิ กรุงเทพฯ ขณะนี้ยังมีการติดเชื้อจำนวนมากอยู่ ก็ยังไม่จำเป็นต้องเปิดให้ท่องเที่ยวได้ เหมือนพื้นที่ชลบุรี เพชรบุรี หรือประจวบคีรีขันธ์ ที่ยังพบการติดเชื้ออยู่จำนวนมาก ก็ต้องพักไว้ก่อน ส่วนที่เหลือจะพยายามเปิดให้ได้ตามกำหนด
นายพิพัฒน์กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ล่าสุดยังรอความชัดเจนในการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโต จีพี ว่าจะสามารถจัดได้หรือไม่ โดยการทรวงการท่องเที่ยวฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้จัดงาน และเจ้าของลิขสิทธิ์ จะหารือร่วมกันคาดว่า ยังสามารถจัดงานได้หรือไม่ และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์อย่างไร โดยคาดว่าจะมีข้อสรุปในสัปดาห์นี้ โดยหากจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่สามารถเปิดได้ หรือมีการเลื่อนการจัดงานโมโตจีพีออกไปเป็นปี 2565 กระทรวงการท่องที่ยวฯ และ ททท. อาจพิจารณาจังหวัดอื่นๆ ที่มีความพร้อมในภาคอีสาน ซึ่งขณะนี้พบว่า มีอยู่บางจังหวัดที่น่าสนใจ อาทิ อุบลราชธานี บึงกาฬ และหนองคาย โดยแต่ละจังหวัดก็เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอยู่พร้อมด้วย
“แนวทางที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้ อาจมีความจำเป็นต้องเลื่อนการจัดการแข่งขันไปปี 2565 เนื่องจากประเมินแล้วพบว่า สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และความปลอดภัยของนักแข่งที่เข้ามาในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาประเทศไทยเองได้เลื่อนมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2563 เพราะเจอปัญหาการติดเชื้อโควิดในประเทศพอดี แต่ทั้งหมดยังต้องมาหารือกันก่อนว่า หลังจากเปิดรับต่างชาติครบ 4 จังหวัดแล้ว จะเดินหน้าไปจังหวัดใดต่อบ้าง โดยเรื่องนี้จะชัดเจนหลังเดินทางกลับจากร่วมพิธีเปิดโอลิมปิกแล้ว” นายพิพัฒน์กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่