ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่พยายามถีบรถหญิงอายุ 19 ปี เพื่อหวังข่มขืน ที่จังหวัดหนองคาย ได้แล้ว โดยคนร้ายหลบหนีและไปก่อเหตุที่จังหวัดอุดรธานี พบประวัติโชกโชน ก่อเหตุชิงทรัพย์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
หลังสนามข่าว 7 สี นำเสนอข่าวหญิงอายุ 19 ปี ถูกคนร้ายพยายามถีบรถจักรยานยนต์ให้ล้ม เพื่อหวังจะข่มขืน และถูกยิงปืนข่มขู่ด้วย 1 นัด ที่บริเวณถนนสายท่าบ่อ-บ้านผือ ตำบลบ้านว่าน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่เธอสามารถหนีเอาชีวิตรอดมาได้
ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจได้สืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ ในพื้นที่ตำบลบ้านจั่น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายสุวิทย์ บุณณะสิทธิ์ อายุ 33 ปี โดยถูกตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จับกุมพร้อมของกลางปืนพกสั้น ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก เนื่องจากไปก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหา วันที่ 12 สิงหาคม หลังเสพยาบ้า นายสุวิทย์ได้พกปืนขี่รถจักรยานยนต์ออกมาก่อเหตุ ชิงทรัพย์ 3 ครั้ง ครั้งแรกเวลา 03.30 น. จี้ชิงทรัพย์หญิงอายุ 63 ปี ที่กลับมาจากซื้อของที่ตลาดสด และกำลังยืนเติมเงินที่ตู้เติมเงินอัตโนมัติ ในพื้นที่ตำบลบ้านจั่น อำเภอเมืองอุดรธานี และบังคับให้ผู้เสียหายพาไปค้นทรัพย์สินภายในบ้าน ได้เงินสดไปเกือบ 2,000 บาท
ต่อมาเวลาประมาณ 05.00 น. ไปก่อเหตุงัดบ้านชายอายุ 50 ปี ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อลักทรัพย์ โดยขโมยโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตไป จากนั้นไปก่อเหตุชิงรถจักรยานยนต์บิกไบก์ของชายอายุ 27 ปี ที่บ้านเทื่อม ตำบลเขือน้ำ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี และจากการสอบสวนทราบว่าชายคนนี้ไปก่อเหตุยิงปืนเพื่อชิงทรัพย์ และพยายามข่มขืนหญิงอายุ 19 ปี ในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม
หลังถูกจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุเพียง 7 ครั้ง แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะผู้ต้องหารับสารภาพว่าเสพยาบ้ามา 2 ปีแล้ว และทุกครั้งที่ก่อเหตุจะเสพยาบ้าก่อน 1-2 เม็ด จนหลอน และบางครั้งจะอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ขี่จักรยานยนต์พกอาวุธปืน ก่อเหตุชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ โดยก่อนลงมือชิงทรัพย์จะอ้างตัวเป็นตำรวจทุกครั้ง
ร้อยตำรวจเอก ธรรมนูญ อภัยวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าบ่อ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาพยายามชิงทรัพย์ โดยขู่เข็ญจะทำอันตรายแก่กายไว้ก่อน หากการสอบสวนเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาพยายามข่มขืนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งในขณะนี้ต้องรอให้การดำเนินคดีในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีเสร็จสิ้นก่อน จึงจะอายัดตัวมาดำเนินคดีในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ ต่อไป และหากประชาชนที่เคยถูกนายสุวิทย์ จี้ชิงทรัพย์ ให้แจ้งดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีได้เลย