เพื่อไทย ฉะ ‘ประยุทธ์’ ตามอาชญากรรมไซเบอร์ไม่ทัน ประชาชนนับหมื่นเดือดร้อนถูกดูดเงิน จี้ดีอีเอสจัดการ ไม่ใช่จับแต่เฟกนิวส์
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2564 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่มีอาชญากรรมทางไซเบอร์ มีการดูดเงินจากบัญชีธนาคารบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของประชาชนเป็นจำนวนมาก มีผู้เสียหายเป็นผู้ถือบัตรเครดิต 5,700 ราย คนถือบัตรเดบิต 4,800 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 130 ล้านบาท เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เชื่อว่าจะมีอาชญากรรมทางไซเบอร์ในลักษณะต่างๆ เกิดขึ้นอีกเหมือนในต่างประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลจะต้องตามให้ทัน และมีมาตรการปกป้องคุ้มครองประชาชนไม่ให้เป็นเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์นี้
ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ย.กระทรวงสาธารณสุขออกยอมรับเองว่ามีการแฮ็กข้อมูลของประชาชนกว่า 16 ล้านราย มีเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลถูกแฮ็กเพื่อเรียกค่าไถ่หลายแห่ง ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าประเทศไทยมีความอ่อนแอในการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์นี้ และอาจจะเป็นเป้าหมายมากขึ้นในอนาคตถ้าหากไม่สามารถป้องกัน และสร้างความเข้มแข็งเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์นี้
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า อาชญากรรมทางไซเบอร์ครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนภัยให้รัฐบาลไทยตื่นตัว นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าจะมีมากกว่านี้ในอนาคต ในต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว แม้แต่ในประเทศสหรัฐฯ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกูเกิล ยังเพิ่งออกมาเตือนรัฐบาลสหรัฐถึงความมั่นคงทางไซเบอร์ และอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่จะมีมากขึ้น และให้รัฐบาลสหรัฐเตรียมตัวให้พร้อม ดังนั้นกระทรวงดีอีเอสจะต้องตื่นตัวและเร่งรับมือกับปัญหานี้โดยด่วน ไม่ใช่คิดแค่เรื่องจับเฟกนิวส์ ซึ่งหลายครั้งดูเหมือนกลายเป็นรัฐบาลที่ออกข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ทำให้ดูเหมือนเป็นผู้ให้เฟกนิวส์เสียเอง หรือการไล่ปิดเว็บเพียงแค่นั้น
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย จึงอยากขอเสนอให้รัฐบาลร่วมมือกับภาคเอกชน โดยเฉพาะคณะกรรมร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคาร เพื่อร่วมมือกันจัดเตรียมระบบป้องกันอาชญกรรมทางไซเบอร์ที่เข้มแข็ง เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยรัฐบาล ธนาคารและเอกชนอาจจะร่วมมือกัน โดยรัฐบาลและธนาคารออกทุน โดยใช้ข้อมูลจากภาคเอกชนและประชาชนที่เคยได้รับผลประทบ เพื่อให้ได้ระบบการป้องกันที่ดีสุด ซึ่งในปัจจุบันทั้งบุคลากรและเงินทุนไม่เพียงพอในการบริหารงานส่วนนี้ เหมือนรัฐบาลไม่เข้าใจและไม่ให้ความสนใจในส่วนนี้มากนัก