19 กุมภาพันธ์ 2565 ชุดสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 4 ควบคุมตัว นายกรีลัลติกาล อายุ 40 ปี ชาว ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย หลังถูกจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพมหนคร หลังร่วมกับพวกอีก 4 คน ที่ถูกจับกุมในเวลาไล่ๆกัน คือ นางสาวพิชชาภา อายุ 47 ปี ชาว ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา, นางสาวมลิวรรณ อายุ 44 ปี ชาว กรุงเทพมหานคร, นายรชต อายุ 62 ปี ชาว ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และนายธนบดี อายุ 51 ปี ชาว ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ หลังร่วมกันก่อเหตุหลอกซื้อทองรูปพรรณ ที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ในจังหวัดหนองคาย ก่อนได้ทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 100 บาท มูลค่า 2.9 ล้านบาท แล้วหลบหนีไป
ต่อมาตำรวจสืบสวนภาค 4 สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ครบแก๊งทั้ง 5 คน ดังกล่าว พร้อมของกลาง
1.ทองรูปพรรณ จำนวน 2 เส้น (น้ำหนักเส้นละประมาณ 5 บาท)
2.รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ชีวิค สีขาว ติดป้ายทะเบียน 8กท-316 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน
3.รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น HRV สีขาว ติดป้ายแดง ก0103 ลำปาง จำนวน 1 คัน
4.รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าน รุ่น ชีวิค สีขาว ติดป้ายทะเบียน 2กต-1394 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน
5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง
พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 เวลาประมาณ 12.00 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ไปติดต่อหลอกซื้อทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 100 บาท โดยเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท จำนวน 4 เส้น , สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท จำนวน 12 เส้น จากร้านทองแห่งหนึ่ง ภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยคนร้ายที่ไปติดต่อมีลักษณะเป็นชาย แจ้งว่าเจ้านายให้มาติดต่อซื้อทอง เพื่อไปแจกญาติโดยจะชำระค่าทองเป็นการจ่ายโดยเช็คเงินสด โอนเข้าบัญชีของร้านทองและขอเลขบัญชีร้านทอง เพื่อทำการชำระ จากนั้นจะมีคนร้ายอีกคน ซึ่งเป็นหญิงได้เอาเช็คเงินสด ระบุเจ้าของเช็ค คือ นางสาวพิชชาภา ครณรงค์ ไปขึ้นเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินแล้วเป็นการเคลียร์ลิงเช็คและได้มีข้อความส่งเตือนยอดเงินไปยังร้านทอง และได้มีคนร้ายอีกคนโทรเข้าไปยังร้านทอง อ้างตนเองว่าเป็นเจ้านายและแจ้งว่าได้ทำการชำระเงินค่าทองรูปพรรณดังกล่าวแล้วให้ส่งมอบทองรูปพรรณให้กับลูกน้องของตนได้เลย เมื่อร้านทองหลงเชื่อจึงได้มอทองรูปพรรณให้คนร้ายไป
จากนั้นปรากฏว่าไม่มียอดเงินเข้าบัญชีของทางร้านทองแต่อย่างใด และคนร้ายได้พากันหลบหนีไป โดยกลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น HRV สีขาว ติดป้ายทะเบียนปลอม เป็นยานพาหนะ
จากการตรวจสอบพบว่า ยังมีเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ ที่ ร้านทองแห่งหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเขต อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2564 โดยคนร้ายเป็นชายลักษณะคล้ายกับที่ก่อเหตุที่ อ.เมือง จ.หนองคาย ได้มีการเข้าไปติดต่อขอซื้อทองรูปพรรณและจะชำระโดยการนำเช็คไปขึ้นเงินเข้าบัญชีของร้านทองจากนั้นคนร้ายได้มีการนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารภายให้างสรรพสินค้า ในลักษณะเป็นการเคลียร์สิ่งเช็คเช่นเดียวกัน โดยจะมีข้อความเตือนไปที่ร้านทองจากนั้นจะมีโทรศัพท์ อ้างตนว่าเป็นเจ้านายโทรเข้าไปที่ร้านทองแจ้งว่าได้ชำระค่าทองแล้ว ให้มอบทองให้กับลูกน้องของตนได้เลย โดยกลุ่มคนร้ายได้ทองรูปพรรณจากการก่อเหตุไป น้ำหนักรวม 88 บาท มูลค่า 2,569,000 บาท และคนร้ายได้พากันหลบหนีไป โดยกลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น CVIC สีขาวติดป้ายทะเบียนปลอม เป็นยานพาหนะ
นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า มีเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ , จ.สุรินทร์เมื่อต้นเดือน ก.พ.2565 ที่ผ่านมา แต่ร้านทองไม่หลงเชื่อจึงไม่มอบทองให้กับกลุ่มคนร้าย ซึ่งตำรวจภูธรภาค 4 จะได้ทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามทองรูปพรรณที่ถูกประทุษร้ายไปคืนต่อไปฝากประชาสัมพันธ์ถึง ผู้ประกอบการร้านทอง หรือ ผู้ประกอบการพาณิชย์ต่างๆ หากมีการซื้อขายและมีการชำระค่าสินค้าผ่านเช็ค ขอให้ตรวจสอบยอดจำนวนเงินที่เข้าบัญชีที่แท้จริงให้ละเอียดก่อนส่งมอบสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า ซึ่งอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพอาศัยช่องว่างดังกล่าวในการหลอกชำระค่าสินค้าและบริการ จนเกิดความเสียหายได้