วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2025
  • Login
หนองคาย
  • หนองคาย
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • หนองคาย
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
หนองคาย
No Result
View All Result
Home ข่าว

คุยเฟื่อง!รถไฟจีน-ลาว ไทยช้า-แพง!ค่าเสียโอกาสสูง

หนองคาย by หนองคาย
4 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 2min read
156
0
100
SHARES
199
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง “ระบบราง” หลายเส้นทาง กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชน ที่มีการตั้งข้อสงสัยมากมายในเรื่อง “ฮั้วประมูล–ล็อกสเปก” รวมทั้งราคาการก่อสร้างที่แพงมากและความ “ล่าช้า” อืดอาด! ไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ซึ่งมีการแบ่งโครงการออกเป็น 2 ช่วงคือ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และนครราชสีมา-หนองคาย รวมไปถึงโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่สาย

เด่นชัย (แพร่)-เชียงของ (เชียงราย) และรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่ (ขอนแก่น)-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม

วันนี้ทีมข่าว “1/4 Special Report” นั่งคุยเรื่องโครงการก่อสร้างระบบรางดังกล่าวกับทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ทั้ง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคฯ อดีต รมว.พลังงาน และ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย ในฐานะคณะทำงานทางด้านเศรษฐกิจของพรรคฯ

ไม่ล้ม! 2.2 ล้านล้าน “ระบบราง” เสร็จแล้ว!

นายพิชัยกล่าวว่า จริง ๆ แล้ว 3 โครงการข้างต้น ทั้งรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-หนองคาย รถไฟรางคู่สายเด่นชัย-เชียงของ และรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกบรรจุไว้ในโครงการกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีแผนการพัฒนาระหว่างปี 57-63

โดยกระทรวงคมนาคมที่มี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็น รมว.คมนาคม ได้จัดหมวดหมู่เป็น 3 ยุทธศาสตร์ คือ 1.ยุทธศาสตร์การเชื่อมต่อทางและการขนส่งกับภูมิภาค  8 โครงการ รวมวงเงิน 190,402.58 ล้านบาท 2.ยุทธศาสตร์มุ่งสู่การขนส่งที่ยั่งยืน 39 โครงการ วงเงินทั้งสิ้น 1,550,867.37 ล้านบาท และ 3.ยุทธศาสตร์การยกระดับความคล่องตัวในการเดินทางและการขนส่งไปสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคทั่วประเทศ 10 โครงการ วงเงิน 158,860.04 ล้านบาท รวมทั้งหมด 57 โครงการ วงเงินทั้งสิ้นประมาณ 1,900,129 ล้านบาท ส่วนวงเงินที่เหลือเป็นการพัฒนาทางน้ำ

“นับตั้งแต่การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิแล้วเสร็จและเปิดใช้งานตั้งแต่ปี 49 ประเทศไทยยังไม่มีโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจคท์) ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์จึงคิดทำโครงการ 2.2 ล้านล้าน ซึ่งมีการพัฒนาทั้งบนบกและทางน้ำ เราไม่ได้กู้เงินมากองไว้ทีเดียว 2.2 ล้าน ล้าน แต่เป็นการทยอยทำโครงการปีละ 3-4 แสนล้าน แต่เมื่อโครงการ 2.2 ล้านล้าน ถูกต่อต้าน มันจึงเป็นการเสียเวลา เสียโอกาส และต้นทุนแพงขึ้น เพราะถ้า 2.2 ล้านล้าน เดินหน้าต่อไป ป่านนี้โครงการต่าง ๆ เสร็จหมดแล้ว และไม่แพงมากเหมือนที่กำลังทำอยู่ปัจจุบัน ที่สำคัญคือ 2.2 ล้านล้าน กลายเป็นเงินน้อยนิด เมื่อเทียบงบประมาณบริหารประเทศที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ไปแล้ว 20.8 ล้านล้าน ขาดดุลงบประมาณอีกปีละ 5-7 แสนล้านฯ แต่ไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น แถมมีคนจนมากขึ้น”

กับดัก “ถนนลูกรัง” ไทยเสียโอกาส–แพง!

นายพิชัยกล่าวต่อไปว่าคนไทยเจอบทเรียนอันโชคร้ายที่โครงการ 2.2 ล้านล้านไปเจอ “กับดัก” ต้องทำให้ “ถนนลูกรัง” หมดไปจากประเทศก่อน สุดท้ายกลายเป็นเรื่องเสียโอกาสและความล่าช้า โดยมูลค่าของการเสียโอกาสและล่าช้า คือต้นทุนโครงการแพงมากขึ้น เช่น รถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-หนองคาย จากต้นทุนค่าก่อสร้างปี 57 ประมาณ 170,000 ล้านบาท พุ่งขึ้นไปเป็น 420,000 ล้านบาทในปัจจุบัน (กรุงเทพฯ-นคราชสีมา 170,000 ล้านบาท, นครราชสีมา-หนองคาย 250,000 ล้านบาท) พูดง่าย ๆว่าล่าช้าไปเป็น 10 ปีกว่าจะได้ใช้งาน และแพงขึ้น 250,000 แสนล้านบาท  เช่นเดียวกับรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ที่กำลังเปิดประมูลก่อสร้างกันอยู่ในปัจจุบัน จากมูลค่าโครงการในปี 57 จำนวน 42,106 ล้านบาท พุ่งขึ้นมาเป็น 55,410 ล้านบาท ล่าช้ามาเป็น 10 ปีอีกเหมือนกัน และแพงขึ้น 13,304 ล้านบาท

“โครงการ 2.2 ล้านล้าน ตอนนั้นเราเปิดกว้าง จึงมีหลายประเทศสนใจเข้ามาลงทุน ทั้งจากจีนซึ่งมีต้นทุนถูกที่สุด แต่ดอกเบี้ยเงินหยวนจะค่อนข้างแพง ทางกลุ่มซีเมนส์ของเยอรมันก็สนใจ และญี่ปุ่นซึ่งมาพร้อมกับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ใกล้ ๆ 0% โดยประเทศเหล่านี้มีประสบการณ์สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง และทุกคนก็รู้ว่าถ้าสร้างถนนอย่างเดียว หรือสร้างรถไฟความเร็วสูงอย่างเดียว มันขาดทุนอยู่แล้ว แต่เราต้องการสร้างเพื่อพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ให้มีศักยภาพ ส่งเสริมการคมนาคมขนส่งและการนักท่องเที่ยว เนื่องจากการขนส่งระบบรางมีต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำแค่ 6% (ต่ำกว่านั้นคือการขนส่งทางน้ำ) ขณะที่การขนส่งทางถนน (รถยนต์) มีต้นทุนสูง 16-17% ถ้าน้ำมันราคาแพง ต้นทุนการขนส่งทางถนนจะขยับเป็น 20%”

รถไฟความเร็วสูงล่าช้าไม่ช่วยดัน ศก.

ทางด้านนายกฤษฎากล่าวว่า เท่าที่ติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-หนองคาย มีความล่าช้ามาก โดยช่วงแรกกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. ซึ่งมี 14 สัญญาการก่อสร้าง เพิ่งสร้างเสร็จ 100% ไปเพียง 1 สัญญา ระยะทาง 3.5 กม. ส่วนอีก 1 สัญญาอยู่ระหว่างก่อสร้างคืบหน้ายังไม่ถึง 50% กับอีก 5 สัญญามีการลงนามก่อสร้างไปช่วงปลายปี 63 ป่านนี้ผู้รับเหมาคงเข้าพื้นที่แล้ว และอีก 7 สัญญา กำลังทยอยลงนามก่อสร้าง ซึ่งจากข่าวของสื่อมวลชนบอกว่าจะเปิดให้บริการในปี 69-70 ส่วนช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กม. อยู่ในขั้นตอนการออกแบบรายละเอียด เพื่อส่งให้กระทรวงคมนาคม แล้วส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการเป็นลำดับต่อไป คาดว่าคงเริ่มประมูลและเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 65 น่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานได้เร็วสุดภายในปี 70-71

“มีหลายคนถามว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สร้างทำไม? รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สร้างไว้รองรับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีใครเข้ามาลงทุนในอีอีซี นี่คือการลงทุนสะเปะสะปะ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดรายได้ ไม่ใช่เมกะโปรเจคท์ เหมือนการสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงแรกกรุงเทพฯ–นครราชสีมา ถ้าสร้างเสร็จคงมีแต่คนไทยนั่ง แล้วใครจะนั่งบ่อย ๆ เพราะวิ่งมาแค่นครราชสีมา จึงไม่ได้ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวจากต่างประเทศเลย”

นายกฤษฎากล่าวต่อไปว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย มีคำถามตามมามากมาย ทั้งปัญหาความล่าช้า ต้นทุนค่าก่อสร้างแพงมาก แล้วคนไทยหรือคนจีนจะเป็นผู้บริหารจัดการที่ดิน 2 ข้างทางรถไฟ กับที่ดินโดยรอบตัวสถานีรถไฟฟ้า ดังนั้นเมื่อปัญหาใหญ่คือความล่าช้า ถ้าจะสร้างจากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ตนขอแนะนำให้สร้างจากเวียงจันทน์ (สปป.ลาว) ข้ามแม่น้ำโขงมาที่ จ.หนองคาย ก่อน ด้วยระยะทางประมาณ 20 กม.เท่านั้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยขนคนจีน-ลาว เข้ามาเที่ยวประเทศไทย หลังจากนั้นจึงก่อสร้างรถไฟฟ้าต่อจากหนองคาย-อุดรธานี

ในอดีต สปป.ลาว คือ “แลนด์ล็อก” เพราะไม่มีทางออกสู่ทะเล ไม่มีรถไฟ มีแต่การขนส่งทางถนนที่ลำบากพอสมควร แต่ปัจจุบันลาวกำลังเป็น “แลนด์บริดจ์” หลังจากมีหลายสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมกับไทย และตอนนี้ถนนมอเตอร์เวย์จากเวียงจันทน์ ไปยังแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง “วังเวียง” สร้างเสร็จแล้ว ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลาง 160-200 กม./ชม. จากเวียงจันทน์ไปยังชายแดนที่ยูนนานทางตอนใต้ของจีน ระยะทางกว่า 400 กม. ได้วางรางเสร็จสมบูรณ์แล้ว เป็นรางรถไฟมาตรฐานกว้าง 1.435 เมตร คาดว่าจะเปิดเดินรถได้อย่างเป็นทางการใน “วันชาติลาว” 2 ธ.ค.ปีนี้

ทำสาย “เวียงจันทน์–หนองคาย” ก่อนดีกว่า!

ดังนั้นเมื่อรถไฟสายจีน–ลาว เข้ามาถึงเมืองเวียงจันทน์ กำลังจะเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการช่วงปลายปีนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จึงควรไปเจรจาก่อสร้างรถไฟจากเวียงจันทน์ข้ามมาที่ จ.หนองคาย เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด จะช่วยขนผู้โดยสารทั้งชาวไทย–จีน–ลาว และขนสินค้าเข้ามา ด้วยระยะทางประมาณ 20 กม. ใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 2 ปีเสร็จแล้ว ไม่ต้องนอนรอถึงปี 70-71 ที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงจากกรุงเทพฯจะวิ่งมาถึงหนองคาย แต่รัฐบาลควรเจรจาสร้างรถไฟจากเวียงจันทน์–หนองคาย มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่า

ตอนนี้ทุกประเทศกำลังเจอไวรัสโควิด-19 และหนทางแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจซบเซาได้เร็วที่สุด คือการดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ที่สุดคือคนจีน และเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกปี 64 เติบโตมาก ดังนั้นถ้ามีรถไฟจากเวียงจันทน์ข้ามมาที่หนองคาย จะทำให้เศรษฐกิจของภาคอีสานดีขึ้นแน่นอน ต่อไปหนองคายอาจจะยกระดับมาเป็นศูนย์กลางสินค้าทางเกษตร ทั้งผัก-ผลไม้ระดับพรีเมียม ช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และดึงแรงงานกลับสู่ท้องถิ่น ไม่ใช่ตกงานจากที่อื่นในช่วงโควิด-19 จึงต้องหันหน้ากลับบ้านมาทำการเกษตร เพราะไม่มีทางเลือก

“รัฐบาลจะทำโครงการอะไรก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญคือผังเมืองต้องมาก่อน เพื่อไม่เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาในภายหลัง วันนี้ระบบรางถึงแม้จะล่าช้า แต่ต้องเร่งทำให้ทันและสอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากในระยะทางต่ำกว่า 1,000 กม. การขนส่งทางรางมีต้นทุนที่ต่ำ แต่ที่ผ่านมาผู้ประกอบการในหนองคาย–อุดรธานี ประสบปัญหามาก ถ้าจะขนสินค้าไปลงท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ต้องเสียเวลาไปลากตู้เปล่ามาขนสินค้า ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งในประเทศ แพงกว่าขนส่งในต่างประเทศเสียอีก แต่ปัจจุบันรถไฟรางคู่ยังไม่มา ส่วนรถไฟความเร็วสูงกว่าจะเสร็จปี 70-71 นี่คือความล่าช้าและการเสียโอกาสที่มีมูลค่าสูงมาก” นายกฤษฎา กล่าว.

Tags: newsข่าวจังหวัดหนองคาย
Previous Post

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยเตียมรับมือ ฝนฟ้าคะนอง-ฝนตกหนัก 60-70%

Next Post

อายเขาบ้างไหม’ไพศาล’เผยรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน,จีน-เวียดนามจะเปิดเร็วๆนี้ แต่ของไทยยังไม่ไปไหน

หนองคาย

หนองคาย

วีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส สะพานไทย-ลาว

Related Posts

เปิดแชตไลน์กลุ่มผู้ค้าหวยรายย่อยเมืองเลยทุกพื้นที่ทั่วไทยถูกรีดส่วย-300-500-บาท/คน/งวด
ข่าว

เปิดแชตไลน์กลุ่มผู้ค้าหวยรายย่อยเมืองเลยทุกพื้นที่ทั่วไทยถูกรีดส่วย 300-500 บาท/คน/งวด

มิถุนายน 4, 2023
หนองคายยึดยาบ้าอีก3แสนเม็ดขนข้ามมาจากฝั่งลาว-มูลค่า15ล้านบาท
ข่าว

หนองคายยึดยาบ้าอีก3แสนเม็ดขนข้ามมาจากฝั่งลาว มูลค่า15ล้านบาท

พฤษภาคม 27, 2023
ตามรวบ-4-หนุ่มตะลุมบอนกลางกรุงหนีซุกลาว-แจ้งข้อหาพยายามฆ่า
ข่าว

ตามรวบ 4 หนุ่มตะลุมบอนกลางกรุงหนีซุกลาว แจ้งข้อหาพยายามฆ่า

พฤษภาคม 12, 2023
จับอีกลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่ากว่า-10-ล้านบาท-ทั้งในสุรินทร์-ศรีสะเกษ
ข่าว

จับอีกลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ทั้งในสุรินทร์-ศรีสะเกษ

พฤษภาคม 10, 2023
สถานทูตไทยในเวียงจันทน์ส่งมอบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
ข่าว

สถานทูตไทยในเวียงจันทน์ส่งมอบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

พฤษภาคม 6, 2023
เงินสะพัด!-ชุดนักเรียนหนองคายขายดี-ผู้ปกครองแห่ซื้อรับเปิดเทอมใหม่
ข่าว

เงินสะพัด! ชุดนักเรียนหนองคายขายดี ผู้ปกครองแห่ซื้อรับเปิดเทอมใหม่

พฤษภาคม 2, 2023
Next Post
image_big_608a66e21cb43.jpg

อายเขาบ้างไหม'ไพศาล'เผยรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน,จีน-เวียดนามจะเปิดเร็วๆนี้ แต่ของไทยยังไม่ไปไหน

บทความ แนะนำ

No Content Available

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนถ่ายสินค้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งประปาสายหลัก การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การหล่อหลอม การกลึงโลหะ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ บริการซัก อบ รีด บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.บึงกาฬ สพป.หนองคาย เขต 1 สพป.หนองคาย เขต 2 สพม.เขต 21 สมาคม สำนักงานจัดการเดินทาง หนองคาย หน่วยงานราชการ อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา หนองคาย



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!