วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2025
  • Login
หนองคาย
  • หนองคาย
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • หนองคาย
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
หนองคาย
No Result
View All Result
Home ข่าว

จับตา “ผัก-ผลไม้จีน” ทะลักไทย หลังเปิดรถไฟ “คุนหมิง-เวียงจันทน์”

หนองคาย by หนองคาย
4 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
162
0
103
SHARES
206
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

เผยแพร่: 25 ธ.ค. 2564 05:03   ปรับปรุง: 25 ธ.ค. 2564 05:03   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ – กระแสข่าวผักผลไม้จีนทะลักเข้าไทยเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนที่ถูกจับตาอย่างมาก หลังเปิดวูดเส้นทางรถไฟระหว่างนครคุนหมิง-เวียงจันทน์ (สปป.ลาว) เชื่อมระบบโลจิสติกส์ภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564 ด้วยเกรงว่า จะทำให้เกษตรกรไทยต้องเผชิญกับความยากลำบากมากกว่าเดิมหลังจากก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจาก “ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีนปี 2546” ตั้งแต่ช่วงปี 2546 ซึ่งแม้ไทยส่งออกพืชผลทางการเกษตรไปขายยังจีนได้มากขึ้น แต่จีนก็ส่งสินค้าเกษตรมาขายยังไทยได้จำนวนมหาศาล โดยเฉพาะพืชผักเมืองหนาวชนิดเดียวกับที่ปลูกในประเทศไทย 

ตัวอย่างสดๆ ร้อนๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็คือ ปรากฎการณ์  “บอนสีจีน” ทะลักตลาดต้นไม้ไทย บอนสีซึ่งจัดเป็นพืชอยู่ในพิกัด 0602.90.90 ตามข้อตกลงการค้าเสรีไทย-จีน ที่มีอัตราอากรเป็น 0% หรือปลอดภาษี รวมทั้งยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยฃ ระยะเวลาเพียง 4 เดือน (มิ.ย. – ก.ย. 2564) มีการนำเข้าบอนสีจากจีนเพิ่ม 40 เท่า ผ่านด่านศุลกากรเชียงของ จ.เชียงราย ด่านชายแดนบนแนวเส้นทาง R3a เชื่อมจีน-สปป.ลาว-ไทย นับรวมมูลค่าเพียง 4 เดือน เป็นเงินจำนวนกว่า 22 ล้าน และปริมาณบอนสีกว่า 9 แสนต้น เฉลี่ยต้นละประมาณ 23.24 บาท แต่ราคาขายในตลาดต้นไม้เมืองไทยทะยานหลักร้อย จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าทุนจีนปั่นราคาหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้นายทุนจีนไม่เคยนำเข้าสินค้าประเภทบอนสีมาก่อนเลย จวบจนกระทั่งกระแสความนิยมบอนสี ตลอดจนพืชใบด่างในเมืองไทย

มาวันนี้กระแสข่าวผักผลไม้และต้นไม้จากจีนทะลักจึงเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา

 นายอลงกรณ์ พลบุตร  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยรายละเอียดว่า เส้นทางรถไฟระหว่างนครคุนหมิง-เวียงจันทน์ (สปป.ลาว) ซึ่งเปิดบริการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 โดยจีนได้มีการทดลองขนส่งผักมาไทย จำนวน 33 ตู้ และจะมีไม้ตัดดอกเข้ามาอีก 2 ตู้ในวันที่ 15 ธันวาคม และผักอีก 26 ตู้ในวันที่ 18 ธันวาคม 2564 ส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนการขนส่งจากรถเทรลเลอร์บนเส้นทาง R3A เป็นรถไฟเพราะด่านโมฮ่านของจีนติดขัดแออัดอย่างหนักเพราะมาตรการป้องกันโควิด และจำนวนผักนำเข้าจากจีนที่มาผ่านเส้นทางรถไฟดังกล่าวจัดเป็นปริมาณที่น้อยมาก

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้ามากว่า 1 ปี หลังจากมีการทดลองขนส่งล็อตแรกของจีนมาไทยได้สำเร็จ ได้มีการประชุมกับสมาคมและสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของไทยและให้ติดต่อกับบริษัทจีน เพื่อร่วมมือในการส่งออกสินค้าเกษตร

อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่ากระแสข่าวรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ขนผักมาขายในไทย สร้างความปริตกแก่เกษตรกรและผู้ค้าผักชาวไทยไม่น้อย ต่างกังวลว่าผักต่างๆ ที่ส่งมาจากจีนจะทำให้ราคาผักชนิดเดียวกันในประเทศตกลงหรือไม่ ซึ่ง  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า หลักการนำเข้า-ส่งออก เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศของ 2 ประเทศ หรือกติกาพหุภาคี ซึ่งปัจจุบันนี้จีนสามารถส่งออกผลไม้มาไทยได้อยู่แล้ว ไทยก็สามารถส่งออกไปจีนได้เช่นกัน

สมมติว่ามีการส่งออกผลไม้เข้ามาในเมืองไทยสะดวกขึ้น ผลวิเคราะห์ระบุว่าไทยไม่อยู่ในสถานะที่จะเสียเปรียบ ถ้าดูจากสถิติตัวเลขการนำเข้า-ส่งออกผลไม้ไทยกับจีน ปัจจุบันการส่งออก-นำเข้าผลไม้ไทยไปจีนนั้น เราได้เปรียบดุลการค้าผลไม้อยู่ โดย 10 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค. -ต.ค.) ไทยส่งออกผลไม้ไปจีนเพิ่มขึ้น 74.6% และ 10 เดือนนี้ไทยส่งออกผลไม้ไปจีนเป็นมูลค่า 145,497 ล้านบาท แต่จีนส่งมาไทยเพียงแค่ 26,000 ล้านบาท ทำให้ไทยได้ดุลอยู่ประมาณ 120,000 ล้านบาท

และจากสถิติการส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศจีนของกรมวิชาการเกษตร พบว่าเดือนมกราคม 2564 – ปัจจุบัน ไทยส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน มีปริมาณกว่า 2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 148,000 ล้านบาท โดยปริมาณการส่งออกผลไม้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมะพร้าวอ่อน ตามลำดับ

ขณะที่  นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ แสดงความกังวลถึงปัญหาการทะลักเข้ามาของสินค้าเกษตรผักและผลไม้จากจีน ที่อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทย หลังเปิดเส้นทางรถไฟจีน-ลาว อีกทั้ง สินค้าเกษตรจีนได้เปรียบทั้งด้านต้นทุนและแหล่งการผลิต โดยมีข้อเสนอแนะดังนี้

1. รัฐบาลต้องตั้งการ์ดดูแลตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรเพื่อให้ได้มาตรฐาน 2. เกษตรกรต้องปรับตัว ปรับการผลิตสินค้าเกษตร อย่าผลิตสินค้าที่จีนผลิตได้จำนวนมาก โดยเกษตรกรไทยต้องปรับไปปลูกพืชเกษตรผสมผสาน เลี้ยงปศุสัตว์สร้างมูลค่าเพิ่ม หรือการปรับเปลี่ยนไปปลูกไม้ยืนต้นมูลค่าสูง ซึ่งจะส่งผลดีระยะยาว 3. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1% ต่อปี เพื่อให้เกษตรกรกู้ยืมในการลงทุนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และ 4. มาตรการเยียวยาผลกระทบต่อผู้ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งในกรณีสินค้าผักอาจไม่เหมาะที่จะใช้ประกันรายได้เพราะเป็นพืชอายุสั้นแต่มีความ

ทว่า ท่ามกลางกระแสข่าวผักผลไม้จีนทะลักไทย ภาคการส่งออกไทยไปยังจีนกำลังประสบปัญหาโดนเตะสกัดนำเข้า นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี  นายกสมาคมผู้ค้าผลไม้และส่งออกผลไม้ไทย เปิดเผยว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนเริ่มกีดกันทางการค้ากับประเทศไทยที่ไม่ใช่ภาษี เช่น ทุเรียน จีนมีมาตรการตรวจโควิด ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่ไม่มีในโลกนี้ ใช้ระบบป้องกันขั้นสูงสุดความปลอดภัยในเรื่องของอาหาร รวมทั้งการขนส่งสินค้าเส้นทางชายแดนไทยไปจีนกำลังเป็นปัญหา การขนส่งเป็นไปอย่างล่าช้า ผักผลไม้ไทยส่งออกไปจีนเน่าเสียสภาพไม่สวย ต่างจากผักผลไม้ผักจีนซึ่งมีการทดลองนำมาทางรถไฟจีนลาวก่อนแล้ว

ขณะที่นายจุรินทร์ตอบประเด็นการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า โดยไม่ใช่มาตรการทางภาษี (Non Tariff Barriers) ระบุว่ากระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ ยินดีรับฟังแต่ท้ายที่สุดก็ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์กติกาทั้งทวิภาคีและพหุภาคีระหว่างประเทศเป็นหลัก และหากอิงคำสัมภาษณ์ของ นายอลงกรณ์คาดว่าจะสามารถเปิดให้นำเข้าผลไม้ไทยช่วงต้นปีหน้า 2565 โดยเส้นทางรถไฟระหว่างนครคุนหมิง-เวียงจันทน์ (สปป.ลาว) จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีน

ประเด็นถัดมาคือ เกิดคำถามว่ามาตรการตรวจสอบผักผลไม้ทั้งเรื่องคุณภาพสารและเคมีตกค้างที่จากต่างประเทศที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นมีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะหลังจากการกระแสการทะลักของผักผลไม้จากจีนครั้งล่าสุด

ย้อนกลับไปช่วงปี 2562 ผลพวงจากการทำข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน อัตราภาษี 0 % ทำให้ผักจีนทะลักเข้ามายังไทยจำนวนมาก อีกทั้งเส้นทางที่ขนกันได้สะดวกสบายสามารถนำเข้าจากจีนผ่านเส้นทางด่านโมฮาน จีนตอนใต้ มาด่านเชียงของ ที่เชียงราย เดินทาง 3 ชั่วโมง ผ่านพิธีการนำเข้าสินค้าบริเวณด่านศุลกากร มีการสุ่มตรวจหาสารตกค้าง จากชายแดนจะลำเลียงไปยังตลาดค้าส่งแหล่งใหญ่ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไอยรา ฯลฯ ก่อนกระจายสู่ผู้บริโภค

ในเวลาเดียวกันได้มีการตรวจสอบจาก ThaiPAN – เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช พบว่าผักผลไม้ที่ขายกันตามท้องตลาดกว่า 40 % ที่มีการสุ่มตรวจพบสารเคมีตกค้าง

อย่างไรตาม หน่วยงานที่กำกับดูแลนำโดย นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้นำคณะลงพื้นที่ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของด่านอาหารและยาหนองคาย รวมทั้งหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงมาตรการการบริหารจัดการประจำด่านพรมแดน พร้อมระบุว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าการมีตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนจะอนุญาตให้นำเข้าประเทศ โดยตามหลักเกณฑ์การตรวจสอบผัก ผลไม้ จะมีมาตรการคุมเข้ม ด้วยการตรวจสอบหนังสือรับรองมาตรฐานระบบการผลิตอาหาร การสุ่มตรวจผักผลไม้โดยใช้เกณฑ์ความเสี่ยงที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค หากพบว่ามีผักผลไม้เคยมีประวัติตกมาตรฐานจะกักกันสินค้าไม่ให้เข้าประเทศ และตรวจสอบว่ามีสารเคมีอันตรายตกค้างหรือไม่ หากพบว่าไม่มี จึงจะตรวจปล่อยสินค้า แต่หากพบมีการปนเปื้อนสารตกค้างจะไม่อนุญาตให้นำเข้าและจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ขั้นตอนการตรวจสอบใช้เวลา 5 – 7 วัน ตลอดจนมีการทำงานเชิงรุกโดยพัฒนาห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นที่ด่านอาหารและยาหนองคาย เพื่อใช้คัดกรองความเสี่ยงของผักผลไม้ อำนวยความสะอวกในการนำเข้าสินค้าประเภทผักผลไม้ได้รวดเร็วขึ้นควบคู่กับการคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค



 ถึงตรงนี้ คงต้องบอกว่า ที่ผ่านมาผักผลไม้จากจีนนำเข้ามาในไทยจำนวนมหาศาล ตั้งแต่ยังไม่เปิดเส้นทางรถไฟระหว่างนครคุนหมิง-เวียงจันทน์ (สปป.ลาว) ซึ่งนับจากนี้เปิดเส้นทางโลจิสติกส์ใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า เกษตรกรไทยจะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.


Tags: newsข่าวจังหวัดหนองคาย
Previous Post

ม.ขอนแก่นผนึกชุมชน ยกระดับการท่องเที่ยววิถีเกษตร จัดกิจกรรม “เวียงคุกออนซอนเดย์”

Next Post

เชียงใหม่จับตา “คลัสเตอร์สถานบันเทิง” เร่งสอบสวนโรค 24 คน

หนองคาย

หนองคาย

วีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส สะพานไทย-ลาว

Related Posts

เปิดแชตไลน์กลุ่มผู้ค้าหวยรายย่อยเมืองเลยทุกพื้นที่ทั่วไทยถูกรีดส่วย-300-500-บาท/คน/งวด
ข่าว

เปิดแชตไลน์กลุ่มผู้ค้าหวยรายย่อยเมืองเลยทุกพื้นที่ทั่วไทยถูกรีดส่วย 300-500 บาท/คน/งวด

มิถุนายน 4, 2023
หนองคายยึดยาบ้าอีก3แสนเม็ดขนข้ามมาจากฝั่งลาว-มูลค่า15ล้านบาท
ข่าว

หนองคายยึดยาบ้าอีก3แสนเม็ดขนข้ามมาจากฝั่งลาว มูลค่า15ล้านบาท

พฤษภาคม 27, 2023
ตามรวบ-4-หนุ่มตะลุมบอนกลางกรุงหนีซุกลาว-แจ้งข้อหาพยายามฆ่า
ข่าว

ตามรวบ 4 หนุ่มตะลุมบอนกลางกรุงหนีซุกลาว แจ้งข้อหาพยายามฆ่า

พฤษภาคม 12, 2023
จับอีกลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่ากว่า-10-ล้านบาท-ทั้งในสุรินทร์-ศรีสะเกษ
ข่าว

จับอีกลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ทั้งในสุรินทร์-ศรีสะเกษ

พฤษภาคม 10, 2023
สถานทูตไทยในเวียงจันทน์ส่งมอบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
ข่าว

สถานทูตไทยในเวียงจันทน์ส่งมอบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

พฤษภาคม 6, 2023
เงินสะพัด!-ชุดนักเรียนหนองคายขายดี-ผู้ปกครองแห่ซื้อรับเปิดเทอมใหม่
ข่าว

เงินสะพัด! ชุดนักเรียนหนองคายขายดี ผู้ปกครองแห่ซื้อรับเปิดเทอมใหม่

พฤษภาคม 2, 2023
Next Post
เชียงใหม่จับตา-“คลัสเตอร์สถานบันเทิง”-เร่งสอบสวนโรค-24-คน-–-ข่าวไทยพีบีเอส

เชียงใหม่จับตา "คลัสเตอร์สถานบันเทิง" เร่งสอบสวนโรค 24 คน

บทความ แนะนำ

No Content Available

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนถ่ายสินค้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งประปาสายหลัก การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การหล่อหลอม การกลึงโลหะ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ บริการซัก อบ รีด บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.บึงกาฬ สพป.หนองคาย เขต 1 สพป.หนองคาย เขต 2 สพม.เขต 21 สมาคม สำนักงานจัดการเดินทาง หนองคาย หน่วยงานราชการ อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา หนองคาย



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!