ตำรวจเมืองอุดรธานี จับโจรอกหักแฟนคบมา 10 ปี ทิ้งไปมีอนาคตที่ดี เสียใจดื่มเหล้าจนไม่มีเงิน ตระเวนงัดบ้านลักปืน รอง ผอ.สพป.อุดรฯ หวังเอาไปขายหาเงิน เพื่อซื้อเหล้าดื่มเพื่อลืมอดีตคนรัก
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 มีนาคม 2564 พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังจับกุม นายพิษณุ ทิพมนต์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 3 ต.ม่วง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ผู้ต้องหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” ของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ขขธ 395 หนองคาย หมวกกันน็อก เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ อาวุธปืนสั้นยี่ห้อ SIG SAUER ขนาด 9 มม. 1 กระบอก แมกกาซีน 2 อัน กระสุนปืน 9 มม. 5 นัด โดยจับกุมได้ที่หอพักมีชื่อแห่งหนึ่ง ในซอยพลนามอินทร์ ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน
จากกรณีก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ร.ต.อ.นิวัฒน์ แจงกระโทก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ออกไปสอบสวนเหตุลักทรัพย์บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ต.บ้านจั่น ที่เป็นบ้าน นายพิจิตร พรหมจารีย์ อายุ 45 ปี รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ให้การว่า เช้าวันนี้ตนและภรรยาไปทำงาน ส่วนลูกไปโรงเรียน โดยปิดบ้านไว้ กระทั่งเลิกงาน ภรรยากลับมาบ้านพบประตูหลังโดนงัด โจรเข้ามารื้อค้นและลักทรัพย์สิน สุรา สว่านไฟฟ้า มีอาวุธปืนยี่ห้อซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม.1 กระบอก ส่วนปืนยาวอีก 2 กระบอก พบว่าคนร้ายเอาไปซุกซ่อนหลังตู้หลังบ้าน หลังได้รับแจ้ง ตำรวจได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายมาก่อเหตุและหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายคือ นายพิษณุ ทิพมนต์ จึงเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง
จากการสอบสวน นายพิษณุ ทิพมนต์ ให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่ายแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เมื่อปี 54-55 เมื่อปลดประจำการได้กลับไปทำงานที่บ้าน พอปี 2563 ได้มาสมัครเข้าทำงานเป็นลูกจ้างในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เงินเดือน 8,000 บาท ต่อมาชีวิตถึงจุดเปลี่ยนเพราะแฟนสาวที่รักกันมา 10 ปี บอกเลิกเพราะไปมีคนใหม่ ทำให้อกหักเสียใจ จึงหันมาดื่มเหล้าเพื่อคลายความเจ็บช้ำและความเสียใจ พอดื่มหนักเข้าทำให้เงินไม่พอใช้ ตนจึงก่อเหตุงัดบ้านลักทรัพย์ โดยเลือกบ้านที่มีฐานะ ไม่มีคนเฝ้า และคล้องกุญแจประตูรั้วไว้ เพราะคิดว่าบ้านเหล่านี้จะมีทรัพย์สินมาก และมีอาวุธปืนที่ตนชื่นชอบเป็นส่วนตัวด้วย ซึ่งตนเคยใฝ่ผันอยากเป็นทหาร ตำรวจ เคยไปสอบแต่ไม่ได้
ช่วงปีใหม่ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุงัดบ้านที่ อ.เพ็ญ อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ได้ทรัพย์สินและปืน 2 กระบอก นำปืนไปจำนำและขายกับคนที่รู้จักที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เอาเงินมาซื้อเหล้าดื่มเพื่อให้ลืมแฟนสาว พอเงินหมดก็มาก่อเหตุที่บ้าน รอง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 1 โดยก่อนก่อเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำบุญที่วัดข้างบ้านเกิดเหตุ และเห็นบ้านหลังใหญ่โตคิดว่าน่าจะมีทรัพย์สินและปืน วันเกิดเหตุตนดื่มเหล้าย้อมใจ เสร็จแล้วขี่รถจักรยานยนต์มาวนดูบ้านผู้เสียหาย 1 รอบ จอดรถหน้าประตูรั้วพบกุญแจคล้องไว้ ทำให้มั่นใจว่าไม่มีคนอยู่ จึงขี่รถไปจอดข้างบ้านแล้วเดินไปหลังบ้านปีนกำแพงรั้วเข้ามาลักทรัพย์สิน พบปืนสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก ปืนยาว 2 กระบอก ที่ตนชอบ ตนลักเอาปืนสั้นกระบอกเดียว เพราะปืนยาวไม่มีกระเป๋าใส่ จึงนำไปซ่อนไว้ตู้หลังบ้าน เพื่อจะย้อนกลับมาเอาวันหลัง นำเหล้ามาดื่ม และเที่ยวเตร่ กำลังจะนำปืนไปขายก็มาถูกจับก่อน
ส่วนนายพิจิตร พรหมจารีย์ อายุ 45 ปี รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับโจรได้ พร้อมติดตามอาวุธปืน 9 มม.คืน เพราะตลอดเวลาปืนหายไป ตนกังวลใจมาก เกรงว่าโจรจะนำปืนไปก่ออาชญากรรม จะทำให้ตนเดือดร้อนไปด้วย ขอบคุณตำรวจอุดรธานีที่ติดตามจับกุมคนร้ายและนำปืนมาคืนตนได้ ถือว่าตำรวจอุดรธานีเก่งไม่แพ้ตำรวจที่อื่น.