“บิ๊กตู่” ลงพื้นที่กาญจนบุรีติดตามแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ จับเข่าคุย ส.ส.-ขรก.ฟังปัญหา โชว์นายกฯ 8 ปี ผลงานรูปเป็นร่าง เผยถ้าทำต่อก็จะไปได้เรื่อยๆ ตื้นตันชาวบ้านแห่รับ พร้อมขอให้สมัครสมานสามัคคี ช่วยดูแลประเทศ อย่าให้ใครทำร้ายแผ่นดิน ขณะที่อีสานคึกคัก หนองคายขึ้นป้าย “ลุงป้อม” งัดประโยค “ไม่รู้ ไม่รู้ แต่ไม่แล้งแน่” โปรโมตโรดโชว์ พปชร. 6 ส.ค.
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2565 เมื่อเวลา 08.55 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อลงพื้นตรวจราชการที่ จ.กาญจนบุรี โดยเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอห้วยกระเจา ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐให้การต้อนรับ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ เขต 1นายสมเกียรติ วอนเพียร เขต 2 นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ เขต 4 นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ เขต 5
จากนั้นนายกฯ เดินทางด้วยรถยนต์ไปยังบ้านทุ่งคูน หมู่ที่ 19 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา เพื่อตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ที่โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยระบุว่า ได้เห็นถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งรัฐบาลมีความพยายามทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนโดยรวม ภาคการเกษตรมีปัญหาพอสมควรเรื่องการเพาะปลูกที่ต้องใช้น้ำปริมาณมากและพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ฝนน้อย วันนี้เราเดินหน้าไป 2 ทางด้วยกันคือ เดิมๆ การบริหารจัดการที่มีกฎมีระเบียบและเดินหน้าประเทศเป็นรัฐบาลดิจิทัล ฉะนั้นขอให้ประชาชนติดตามการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลด้วย ตนยินดีได้มาพบปะพวกเรา คิดมาหลายวันแล้วว่าทำอย่างไรประชาชนจะมีความสุขมีความพึงพอใจ ซึ่งความจริงคิดมาหลายปีแล้วและพยายามทำมาเรื่อยๆ หลายอย่างก็ง่าย หลายอย่างทำได้เลย หลายอย่างต้องแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ กติกาต่างๆ รัฐบาลต้องทำให้ปลอดภัยในทางกฎหมายด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำได้ทั้งหมดก็ด้วยความร่วมมือของพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในเรื่องน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ตามที่ทรงรับสั่งไว้ในเรื่องการสืบสาน รักษา ต่อยอด ทรงรับสั่งมากับรัฐบาลขอให้ช่วยดูแลประชาชนในเรื่องการจัดหาโครงการน้ำบาดาลขนาดใหญ่ 15 โครงการ ครอบคลุม 11 จังหวัด และจะมีต่อไปอีก ซึ่งวันนี้พระองค์ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อีกสิ่งที่กังวลคือ น้ำท่วมและน้ำแล้งที่ห้ามอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ต้องอยู่ให้ได้อย่างระมัดระวัง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดในการแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้ แต่โลกเปลี่ยนแปลง ขอให้ทุกคนติดตาม และวันนี้มีเรื่องพลังงานเข้าไปอีก รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลประชาชน แต่ก็ต้องมีกรอบ มีวิธีการ มีกฎหมาย มีระเบียบเยอะแยะไปหมด ตนพยายามจะทำให้ดีที่สุด ตนยืนยัน
“วันนี้ถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนผลงานของรัฐบาลและของทุกคน และต้องขอขอบคุณผู้ที่เสียสละที่ดิน ต้องอย่างนี้ เสียสละส่วนน้อยเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ให้กับคนอื่น นี่เรียกว่าทำกุศล โดยเฉพาะเรื่องให้น้ำ ให้อะไรคน กุศลมาก คนเราสิ่งที่จะดีที่สุดคือให้ รู้จักให้ ผมตื่นมาผมก็ให้ ให้อะไรไม่ได้ผมก็ให้จิตใจกับเขา ให้ความรักไปกับเขา และเดี๋ยวก็ทำให้เขาดีขึ้น นี่คือกุศล มันอาจจะไม่เห็นในตอนนี้ ตอนไหนก็แล้วแต่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดเราจะมีความสุข แม้จะมีปัญหาอุปสรรคอะไรอยู่บ้าง ผมก็เอาเหล่านี้มาเป็นความสุขของผม ได้ทำในสิ่งที่ทำสำเร็จ อันไหนไม่เสร็จก็พยายามต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ปัญหามีหลายอย่างด้วยกัน อยากให้ทุกคนทราบว่านายกฯ และรัฐบาลเต็มที่ ในสภา ส.ส.ก็ร่วมมือกันไปได้หมดประเทศ สำคัญคือพวกเรา คือประชาชน เข้าใจด้วยกันก็ไปได้หมด ในอีก 2 เดือน และเดือนหน้าให้ระวังเรื่องน้ำช่วงเข้าฤดูฝนในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. เตรียมการรับน้ำ เก็บของไว้หน่อย จัดลำดับการขนย้าย ตนพูดไปด้วยคิดไปด้วยก็เหนื่อย ต้องทำด้วย พูดปากเปล่าไม่ได้ จริงๆ แล้วพวกเราคิดมาตลอด ข้าราชการก็ฝากไว้ด้วยแล้วกัน ต้องเข้าเกียร์ตลอด เกียร์ว่างไม่ได้
จากนั้นนายกฯ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนซักถาม ซึ่งประชาชนได้ลุกขึ้นถามถึงราคาน้ำมันที่แพง ปัญหาที่ดินทำกิน สินค้าราคาแพง โดยได้ชี้แจงถึงการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล โดยเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น แม้จะลำบาก แต่ขอให้อดทนหน่อย ทั้งนี้ ตนไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กินก็ปกติธรรมดา ไม่ได้เที่ยวเตร่ไปไหน หรือไปไหนมาไหนเป็น 10 ปีแล้ว ทำงานกลับบ้าน ตรวจเยี่ยมประชุม เป็นนายกฯ ไม่สบายนักหรอก
เวลา 11.25 น. ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชขณะทรงพระคชาธารออกศึก พร้อมถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้าน ท่ามกลางเสียงตะโกนรักลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ นอกจากนี้ ยังมีนายไชยพงษ์ แสนดี เจ้าของปางช้าง อ.ไทรโยค มาต้อนรับเพื่อมอบผ้าขาวม้าและหินตาหินยายอวยพรให้นายกรัฐมนตรีมีความหนักแน่นเหมือนหิน สร้างความหนักแน่นสามัคคีเพื่อประเทศชาติ
นอกจากนั้น ยังนักเรียนจากวัดดอนเจดีย์ได้มาต้อนรับนายกฯ พร้อมขอถ่ายรูปและนำเสื้อยืดมาให้นายกฯ เซ็น โดยเด็กนักเรียนคนหนึ่งได้ขอกอดนายกฯ เพราะชื่นชอบพร้อมกับหลั่งน้ำตา ขณะที่นายกฯ ได้พูดคุยกับเด็กๆ ขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือให้จบและตั้งเป้าสิ่งที่ต้องการไว้ เพราะจะมีการจ้างงานเป็นจำนวนมาก ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จเพื่อช่วยดูแลครอบครัวและพ่อแม่ และเตือนเด็กหากปู่ย่าตายายดุหรือว่ากล่าวอะไร ก็เพราะความหวังดี
ต่อมาเวลา 13.15 น. ที่ Sky Walk ริมฝั่งแม่น้ำแคว ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี พล.อ.ประยุทธ์ติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบเรือนแพและปรับปรุงภูมิทัศน์ 2 ริมฝั่งแม่น้ำแคว โดยนายกฯ กล่าวว่า เดินทางมาที่จังหวัดกาญจนบุรีหลายครั้งตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงมากมาย ยินดีกับทุกท่านด้วยใจจริงวันนี้เห็นประชาชนมารับเยอะก็ตื้นตันพูดอะไรไม่ออก นี่คือประเทศไทย คือคนไทยที่เราต้องพร้อมกันร่วมมือด้วยความสมัครสมานสามัคคี ทำให้บ้านเมืองเรามีเสถียรภาพและเดินหน้าไปได้ วันนี้มีความสุขตั้งแต่เช้าแล้ว เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบ ตั้งแต่ไปสักการะสมเด็จพระนเรศวรแล้ว ตลอดทางก็ไหว้มาตลอด เพราะดินแดนนี้เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์หลายอย่าง และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วันนี้ก็คุยกับ ส.ส.และผู้ว่าราชการจังหวัด มีหลายอย่างที่ตนรับเรื่องไว้พิจารณา อะไรทำได้ตนยืนยันจะทำให้ ขอให้ห่วงใยซึ่งกันและกัน ตนห่วงใยประชาชน ประชาชนก็ห่วงใยตนด้วย เพราะตนทำอะไรที่ผิดมากๆ ไม่ได้ ต้องรักษากติกา
นายกฯ ยังถาม ส.ส.ในพื้นที่ว่ามีอะไรอีกที่ขอมาในวันนี้ ก่อนกล่าวอีกว่า ในเรื่องไฟฟ้าที่มีปัญหาปักเสาไฟผิดกฎหมายกันอยู่ ตนจะพิจารณาดูให้ ก็ไปดูเจ้าของพื้นที่ว่าถ้าเขาไม่อนุญาตจะทำได้อย่างไร แต่ตนก็รับเรื่องไว้ทั้งหมด นี่คือสิ่งที่ไม่เคยหยุดคิดตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา และวางแผนไว้ล่วงหน้า วางยุทธศาสตร์ไว้ทั้งหมดที่ทำไว้เกือบ 8 ปี ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แล้วถ้าทำต่อก็ไปได้เรื่อยๆ อยากจะบอกว่าจิตใจนายกฯ และข้าราชการเป็นจิตใจเดียวกัน ต่างคนต่างเข้าใจกันก็ไม่มีปัญหา จะได้เดินหน้าต่อไปได้ ความสำเร็จวันนี้ไม่ใช่ตนคนเดียว พวกเราเป็นตัวหลักสำคัญ ประชาชนในพื้นที่ยินยอมพร้อมใจให้ทำ ถ้าตนกำหนดความคิดเห็นมาแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบก็ไปไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สถานะการเงินการคลังของเรายังแข็งแกร่ง และมีขีดความสามารถในการดูแลปัญหาหนี้ต่างๆ ตามแผน ตามระบบการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งดีกว่าหลายประเทศในโลก และมั่นใจว่าโอกาสยังมีอีกมากหากพวกเราเดินหน้าไปด้วยกัน ก้าวไปด้วยกัน ตนว่าเราเอาชนะได้ทั้งโลกทุกเรื่อง สุดท้ายนี้ฝาก ส.ส.ในพื้นที่ภาครัฐ ส่วนท้องถิ่นต่างๆ ร่วมมือกันทำงานให้ประชาชน จากนั้นนายกฯ เดินพบปะถ่ายรูปกับประชาชน พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า ตนไม่มีอะไรกับใคร ไม่เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น แต่ใครทำร้ายแผ่นดินนี้ไม่ได้ ขอให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติ ทั้งนี้ ยังมีประชาชนมอบสร้อยคอลูกประคำ พร้อมเหรียญเสาร์ 5 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี ให้นายกฯ คล้องคอ จากนั้นนายกฯ และคณะได้เดินชม Sky Walk พร้อมกับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีว่า วันนี้เป็นการเดินทางมาติดตามการบริหารจัดการน้ำบาดาล เพื่อการแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภค และประกอบอาชีพอื่นตามความเหมาะสม ซึ่งยังต้องติดตามในอีกหลายพื้นที่และหลายจังหวัด รวมถึงมารับทราบปัญหาผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ประชาชน และ ส.ส.ทุกพรรคเหมือนทุกพื้นที่ โดยรัฐบาลจะหาวิธีการที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหา
ที่จังหวัดหนองคาย พบป้ายไวนิลขนาดใหญ่ปรากฏภาพของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุข้อความ “ไม่รู้ ไม่รู้ แต่ไม่แล้งแน่” โครงการพัฒนาน้ำบาดาล ไม่ร้อน ไม่แล้ง กักเก็บน้ำ ฟื้นชีวิต พัฒนา ต่อยอดเกษตรกรไทย ด้วยภาษีเกษตรกร พลิกชีวิตเกษตรกรทั่วไทย ให้มีน้ำใช้ตลอดปีงบประมาณจากภาษีประชาชน เพื่อประชาชน ติดอยู่ทั่วจังหวัด
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 ส.ค.นี้ พล.อ.ประวิตรพร้อมแกนนำ เช่น นายวิรัช รัตนเศรษฐ กรรมการบริหารพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเอกภาพ พลซื่อ จะยกขบวนขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย โชว์ผลงาน พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ณ บริเวณลานฝั่งตรงข้าม Chic Chic Market ภายใต้ชื่องาน “ลุงป้อมลุยเต็มพิกัด ไม่มียั้ง”.