ปริมาณน้ำโขงลดลงต่อเนื่องจนเกิดภาวะน้ำตกตะกอน ส่งผลกระทบทั้งกลุ่มประมงพื้นบ้าน เกษตรริมโขง รวมไปถึงความหลากหลายของพันธุ์ปลาที่ลดลง นักวิชาการด้านการประมงระบุว่าเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการสร้างเขื่อนทางตอนบน
ปริมาณน้ำโขงตั้งแต่วัดปากน้ำฮวย ต.บ้านม่วง อ.สังคม เรื่อยมาจนถึงบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1.30 ม.และยังพบว่า น้ำโขงตกตะกอนมีสีใส ปกติสีขุ่นหรือโขงสีปูนส่งผลกระทบต่อคนลุ่มน้ำโขง ทั้งผู้เลี้ยงปลากระชัง ชาวประมงพื้นบ้านและเกษตรกรปลูกผักริมโขง
นายโชควัตร ภูริทร์ณัฐภูมิ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 มานี้น้ำโขงเปลี่ยนไปจากที่เคยไหลเร็วก็ไหลช้าลง และน้ำมีสีใสจากภาวะตกตะกอนทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของน้ำทั้งแร่ธาตุ สารอาหาร และออกซิเจนในน้ำลดลง
นอกจากนี้ความหลากหลายของพันธุ์ปลาก็ลดลงตามไปด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำโขงด้าน จ.นครพนม วันนี้ลดลงอีก 5 ซม.ระดับน้ำอยู่ที่ 1.22 ม.ถือว่าต่ำสุดในรอบหลายสิบปีบางจุดเกิดหาดทรายเป็นทางยาว
นายยรรยง ศรีเจริญ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำจืด องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประเทศไทย ในฐานะผู้ดำเนินงานโครงการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงคราม ระบุว่า กรณีน้ำโขงลดลงอย่างรวดเร็วยังไม่กระทบกับการขยายพันธุ์ปลามากนัก เนื่องจากไม่ได้อยู่ในช่วงของฤดูผสมพันธุ์แต่ที่กระทบชัดเจนในขณะนี้ คือการนำน้ำที่นำมาใช้ในการเกษตรและอุปโภคบริโภคในขณะนี้