วันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2024

มติบอร์ดไล่ออก ‘บิ๊ก สกสค.’ อีกรอบ หลัง ‘ป.ป.ช.’ ชี้มูลทุจริต เล็งฟ้องแพ่ง-อาญา

This image is not belong to us

มติบอร์ดไล่ออกบิ๊ก สกสค.อีกรอบ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตคดีหนองคายน่าอยู่ฯ จ่อเอาผิด แพ่ง-อาญา ส่งหนังสือเร่งอัยการฟ้องบิลเลี่ยนฯ

เมื่อวันที่ 7 เมษายน นายธนพร  สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ สกสค. ที่มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธานผ่านระบบการประชุมทางไกลด้วยแอพพลิเคชั่น Zoom ว่า ที่ประชุมหารือกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลทุจริต กรณีอดีตผู้บริหาร สกสค.นำเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ไปซื้อหุ้น บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด ในโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน บ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ในราคาหุ้นละ 25 บาท รวมมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท โดยกรณีนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด จำนวน 16 ราย ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม และมีคำสั่งว่าต้องลงโทษทางวินัยไล่ออกผู้ที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน

นายธนพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ใน 16 ราย แบ่ง เป็น 3 กลุ่มคือ 1.คนนอก จำนวน 2 ราย ซึ่ง สกสค.ต้องส่งหนังสือแจ้ง ป.ป.ช.ว่าไม่มีอำนาจดำเนินการ 2.บุคลากรของหน่วยงานอื่นใน ศธ. เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ประมาณ 6 ราย ต้องแจ้งให้ ป.ป.ช.ส่งหนังสือไปยังต้นสังกัด และกลุ่มที่ 3.เจ้าหน้าที่ สกสค. ได้มีการไล่ออกไปแล้วรอบหนึ่ง ในคดีการนำเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯกว่า 3,000 ล้านบาท ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินกับบริษัทบิลเลี่ยนอินโนเวเท็ดกรุ๊ป จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยบุคคลเดียวที่ สกสค.ลงโทษไล่ออกได้คือนายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการ สกสค.

“นายสมศักดิ์ถูกเลิกจ้างไปแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 และปี 2560 ถูกไล่ออก กรณีการซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินกับบริษัทบิลเลี่ยนฯ ครั้งนี้ถือเป็นการไล่ออกซ้ำ ซึ่งทางกฎหมายทำเพื่อ กรณีคดีอื่นถูกยกฟ้อง หรือการอุทธรณ์และไม่โดนไล่ออก ก็ยังมีการไล่ออกครั้งนี้ ถือเป็นกระบวนการทางวินัย ผลอยู่ถือว่าบอร์ด สกสค.ไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มติครั้งนี้เป็นการดำเนินการทางวินัย แน่นอนว่าจะส่งผลความผิดทางละเมิด ทั้งแพ่งและอาญา ซึ่งจะไม่ละเว้นใครเด็ดขาด” นายธนพร กล่าว

เลขาธิการ สกสค. กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มที่ 1 บุคคลภายนอกนั้น แม้จะไม่มีผลทางวินัย แต่จะมีผลสืบเนื่องในความผิดทางละเมิด รวมถึงดำเนินเป็นคดีแพ่ง และอาญา ส่วนกลุ่มที่ 2.บุคลากรของ สพฐ.และ สอศ. สกสค.ต้องส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.ว่าไม่ใช่บุคลากรของ สกสค. เพื่อให้แจ้งไปยังต้นสังกัดเพื่อดำเนินการไล่ออกซ้ำต่อไป  นอกจากนี้ที่ประชุมยังพิจารณาผลประเมินการทำงานของเลขาธิการ สกสค. โดยมีมติเห็นชอบให้ผ่านด้วยคะแนน 94 เต็ม 100 ซึ่งส่วนตัวจะตั้งใจนำคะแนนตรงนี้เป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป ส่วนความคืบหน้ากรณีการสืบข้อเท็จจริง กรณีการซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินกับบริษัทบิลเลี่ยนฯ ที่มีนายสมบูรณ์  ม่วงกล่ำ อดีตคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธาน สรุปผลการสืบข้อเท็จจริง และส่งหนังสือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเร่งรัดให้ฟ้องดำเนินคดี เพราะเรื่องนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตตั้งแต่ปี 2560 เชื่อว่าจะเร่งฟ้องในเร็วๆ นี้


หนองคาย

หนองคาย

วีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส สะพานไทย-ลาว

Related Posts

Next Post

บทความ แนะนำ

No Content Available

Welcome Back!

Login to your account below

Create New Account!

Fill the forms below to register

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.