นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า สำหรับแผนการเปิดประเทศระยะที่ 2 จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป เพิ่มอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) เพชรบุรี (ชะอำ) ชลบุรี (เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ)
โดยในส่วนของกรุงเทพฯจะต้องเลื่อนออกไปเปิดวันที่ 1 พ.ย.นี้ แม้ว่าภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ประชากรในกรุงเทพฯจะได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสถึงเกณฑ์ 70% ในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แล้วก็ตาม แต่เนื่องจากมีพื้นที่เชื่อมต่อปริมณฑลรอบด้าน จึงจำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนแก่ประชากรในปริมณฑลให้ถึง 70% ของประชากรทั้งหมดภายในเดือน ต.ค.นี้ด้วย”
ขณะเดียวกันแผนการเปิดประเทศระยะที่ 3 เริ่มวันที่ 15 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ได้วางแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในเมืองนำร่อง เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย ครบ 7 วันแล้ว สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อได้ในอีก 25 จังหวัด ในระยะที่ 3 ของการเปิดประเทศ ประกอบด้วย
– ภาคเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน สุโขทัย
– ภาคอีสาน ได้แก่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี เลย (เชียงคาน)
– ภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง(เกาะเสม็ด) จันทบุรี ตราด (เกาะกูด เกาะช้าง)
– ภาคตะวันตก ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี
– ภาคใต้ ได้แก่ ระนอง ตรัง สตูล สงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง
– ภาคกลาง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้กระทรวงท่องเที่ยวจะนำเสนอแผนดังกล่าวต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ภายในเดือนนี้ เพื่อให้อนุมัติเดินหน้า พร้อมกับเร่งกระจายวัคซีนลงไปยังพื้นที่ดังกล่าวให้ครบ 70% ก่อนถึงกำหนดการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ขณะเดียวกันนั้นแผนเปิดประเทศในระยะที่ 4 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-15 ม.ค.2565 เป็นต้นไป เป็นการทำบับเบิล (Bubble) หรือแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศตามแนวชายแดน ได้แก่ กัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว และมาเลเซีย ซึ่งที่ผ่านมามีรายได้จากการท่องเที่ยวส่วนนี้ถึงปีละ 2 แสนล้านบาท
นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศไทย พบยอดผู้ติดเชื้อใหม่เบาบางลงอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลงจากระดับ 1.5 หมื่นคนต่อวัน เหลือหลักพันคนต่อวันภายในกลางเดือนนี้หรือราววันที่ 15-20 ก.ย.นี้ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะขอหารือกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พิจารณาลดจำนวนวันกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจากปัจจุบันอยู่ที่ 14 วัน ลดลงเหลือ 7 วัน แต่ถ้ายอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลงเล็กน้อยเหลือที่ระดับ 1.2-1.3 หมื่นต่อคน ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯคงยังไม่กล้าเสนอให้ ศบค.และ สธ.พิจารณา
อีกทั้งส่วนแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยไม่ต้องกักตัวเลยนั้น จะดำเนินการได้ในวันที่ 15 ม.ค.2565 เพราะต้องรอให้การฉีดวัคซีนแก่คนในประเทศเป็นไปตามเงื่อนไขหลักไม่น้อยกว่า 70% ของประชากรทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ก่อน