อาชญากรรม
รวบหนุ่มใหญุ่โหด ยิงตำรวจร่างพรุน!
วันศุกร์ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 07.55 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
สุดโหด หนุ่มใหญ่ คว้าปืนลูกซองยาว ยิงน้องรักดับซึ่งเป็น ตำรวจ ประจำ สภ.ตะกั่วป่า จนร่างพรุน หลังก่อเหตุถูกชุดสืบสวน จังหวัดพังงาจับได้ทันทัน
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.64 ร.ต.ท.หญิง ภคนันท์ ศรีนันทพันธ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ตะกั่วป่า ได้รับแจ้งมีเหตุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ถูกยิงในสวนปาล์มน้ำมัน บริเวณ หมู่ 5 บ้านบางมรวน (บาง – มะ – รวน ) ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ท.นิพนธ์ ญาณไพศาล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ตะกั่วป่า นายเชิดชาย ปัทมยุตานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บางมรวน พ.ต.อ.ประเทือง ศรีละมนตรีผกก.สส.ภ.จว.พังงา พ.ต.ท.บัณฑิต หัตถพิถีพันธ์ รอง ผกก สส.ภ.จว.พังงา ร.ต.อ.จรรยงค์ โลหะกิจ รอง สวป.สส.ฯ ด.ต.จรินทร์ จินดาพล ด.ต.ณรงค์ เทียบพุฒ ด.ต.โกศล คงแก้ว
เมื่อถึงที่เกิดเหตุทราบว่าผู้ที่ถูกยิงชื่อ ด.ต.บัญชา แก้วนุ้ย อายุ 50 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่ สิบเวร สภ.ตะกั่วป่า ถูกยิงด้วยปืนลูกซองยาว จำนวน 1 นัด เข้าที่ชายโครงด้านขวาเป็นรูพรุน ตามร่างกายชายชายโครงมีรอยกระสุนนับได้กว่า 25 รู ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง ได้มีญาติๆบ้านเกิดเหตุนำตัว ด ต.บัญชา ที่ถูกยิงขึ้นรถยนต์ส่งไปรักษาโรงพยาบาลตะกั่วป่าและทราบว่าเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาลตะกั่วป่า เนื่องจากทนพิษบาดบาดไม่ไหว
ส่วนคนที่ก่อเหตุทราบชื่อคือนายณรงค์ จันทร์แจ่มใส่ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/2 หมู่ 5 บ้านบางมรวน (บาง-มะ-รวน)ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังก่อเหตุยิง ดต.บัญชา ล้มคว่ำแล้วด้วยความตกใจได้รีบขี่รถมอเตอร์ไซค์ หลบหนีไปหานายปัญญา เอกภาพันธ์ อายุ 40 ปี ช่างก่อสร้างบ้านที่รู้จัก ให้พาไปซื้อสุราดื่มกินเพื่ออ้อมใจที่ได้กระทำผิดลงไป ขณะเดียวกันทางชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดพังงาและเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงาพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ตะกั่วป่า สามารถสกัดจับตัวนายณรงค์ จันทร์แจ่มใส่ มือปืนได้ขณะขี่รถสวนทางกับตำรวจ ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตรซึ่งนายขณะรงค์ มีอาการเมาสุรา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมรีบนำตัวมายังที่เกิดเหตุทันที พร้อมให้ชี้จุดที่ก่อเหตุและหาอาวุธปืนของกลางที่ใช้ยิง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดที่ 1 เป็นเพิงพักได้พบปืนขนาด 9 มม.ของด ต.บัญชา วางอยู่บนโต๊ะ และใกล้กันพบกระบอกกัญชา และกัญชา วางอยู่บนเคียน จุดที่ 2 หลังบ้านพบรอยเลือด ส่วนจุดที่3 ในรถเบนซ์พบปืนลูกซองยาว จำนวน 2 กระบอก และพบหลักฐานเป็นปืนลูกซองยาวที่นายณรงค์ ใช้ก่อเหตุยิง ดต.บัญชา วางอยู่ในรถคู่เบาะหน้าคนขับ โดยนายณรงค์ ให้การรับสารภาพกับตำรวจว่าเป็นคนยิงด ต.บัญชา ก่อนนั้นซึ่งเป็นเพื่อนรักและนับถือกัน เหมือนพี่เหมือนน้อง ด้วยที่ตนและผู้ตายเป็นคน จ.สุราษฏร์ธานี และมามารู้จักกันเมื่อและ ดต.บัญชามารับราชการเป็นตำรวจที่สภ.ตะกั่วป่า ตนก็ย้ายมาสร้างบ้านอยู่ที่อำเภอตะกั่วป่าหลังที่เกิดเหตุ โดยมี ด ต.บัญชา ได้แวะเยี่ยมเยียนจนเป็นเพื่อนสนิทมากินนอนที่บ้านของตนหลังจากออกจากเวรยาม จนมาถึงปัจจุบัน ด้วยความรู้ใจกัน แต่ด้วยสาเหตุมีเรื่องส่วนตัวกัน บางครั้งเกิดความเมาสุรา กันพูดจาไม่เข้าหู เกิดเรื่องทะเลาะกัน ด้วยความเป็นตำรวจ มีการชักปืนขู่ยิงกันบ่อย จนมาถึงวันสุดท้าย
ทางนายปัญญา เอกภาพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/3 หมู่ที่ 7 ต.บางไทร อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พยานที่เกิดเหตุ ให้การกับ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า ซึ่งมารับจ้างสร้างบ้านผู้เห็นการณ์เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง ว่าก่อนเกิดเหตุที่จะยิงกันทั้ง 2 คนได้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันในสวนปาล์มน้ำมันเหมือนในละคร หนัง ตนเองจึงได้เข้าไปห้ามยกมือไหว้ดาบตำรวจและขอปืนนำไปเก็บไว้ แต่พอสักพักตนเองได้ไปทำงานสร้างบ้านอยู่ได้ยินเสียงปืนเมื่อลงไปดูพบว่าดาบตำรวจถูกยิงจึงได้ให้ญาติพาไปส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่าและตนเองได้พาผู้ก่อเหตุออกไปซื้อสุราจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวได้
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ขอนพุดซา รอง ผบก.ภจว.พังงา ลงไปที่เกิดเหตุร่วมสอบปากคำมือปืนที่ฆ่าตำรวจตาย ถึงเหตุยิงกันตาย ว่าทางผู้ตายและผู้ก่อเหตุมีความสนิทสนมกันมากเป็นพี่บ่าวน้องบ่าวซึ่งก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้มีปากเสียงกันน่าจะเป็นเรื่องสร้างบ้านจนได้มีปากเสียงทะเลาะกันและผู้ตายได้เดินไปหาผู้ต้องหาที่บ้านจนทำให้คนก่อโมโห ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงจากในบ้านถูกผู้ตายเสียชีวิตทันที และได้หลบหนีไปห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตรจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ นำมาสอบปากคำของตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่