เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
“ศักดิ์สยาม”เร่งทล.ออกแบบ MR–Map 3 เส้นทางนำร่อง “นครราชสีมา – แหลมฉบัง/นครราชสีมา – อุบลราชธานี /ชุมพร-ระนอง “เน้นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า ลดผลกระทบ แนวสั้นและตัดตรง ศึกษาลงลึกกำหนดกรอบวงเงินลงทุน เดินหน้าหาผู้รับจ้างโครงการให้เกิดเป็นรูปธรรม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2565 ได้ติดตามความคืบหน้าในการประชุมขับเคลื่อนการศึกษาแผนพัฒนาโครงข่าย MR-Map ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meetings ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าผลการดำเนินงานศึกษาจัดทำแผนการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR–Map) ของกรมทางหลวง (ทล.) โดยปัจจุบัน ทล. ได้จัดทำร่างแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-Map) แล้วเสร็จ 10 เส้นทาง โดยมีปรับแนวเส้นทางบางช่วงทำให้มีระยะทางรวมประมาณ 7,003 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางที่พัฒนาเป็นมอเตอร์เวย์ร่วมกับระบบรางมีระยะทางทั้งหมด 4,321 กิโลเมตร แบ่งเป็นแนวเหนือ-ใต้ จำนวน 3 เส้นทาง แนวตะวันออก-ตะวันตก จำนวน 6 เส้นทาง และวงแหวนรอบกรุงเทพมหานครรอบที่ 3 จำนวน 1 เส้นทาง
ผลการดำเนินงานในโครงการนำร่องฯ จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง MR 2 กรุงเทพฯ/ชลบุรี (แหลมฉบัง)-หนองคาย (ด่านหนองคาย) ช่วงนครราชสีมา – แหลมฉบัง เส้นทาง MR5 กาญจนบุรี (ด่านเจดีย์สามองค์)-อุบลราชธานี (สะพานมิตรภาพแห่งที่ 6) ช่วงนครราชสีมา – อุบลราชธานี และเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระนอง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบเส้นทางเบื้องต้น
และจากการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น โดยผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการพัฒนาโครงการโดยบูรณาการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองร่วมกับระบบราง แต่ยังมีข้อกังวลในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ 1. โครงข่ายแนวเส้นทางควรหลีกเลี่ยงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและพื้นที่ชุมชนเมืองให้มากที่สุด โดยควรพิจารณาให้รอบคอบเรื่องการเวนคืนพื้นที่พร้อมกันทั้งมอเตอร์เวย์และระบบราง และความเป็นไปได้ทางกฎหมายร่วมด้วย และการจัดลำดับความสำคัญของแผนแม่บท เพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนและประชาชน
2. ประเด็นการออกแบบแนวเส้นทาง โดยในการออกแบบมอเตอร์เวย์ควรมีถนนบริการและจุดกลับรถในพื้นที่ที่ผ่านชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการเข้า – ออกพื้นที่ ควรมีการออกแบบเป็นทางยกระดับในพื้นที่ที่ต้องผ่านชุมชนหรือพื้นที่ที่เป็นที่ราบลุ่มต่ำ และสิ่งสำคัญในการออกแบบ จะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อพื้นที่ระบายน้ำ/พื้นที่น้ำท่วม อีกทั้งขอให้พิจารณาการใช้เขตทางให้เหมาะสมทั้งมอเตอร์เวย์และทางรถไฟ
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้สั่งการเน้นย้ำเรื่องการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า ลดผลกระทบกับประชาชน และเส้นทางที่ออกแบบจะต้องสั้นและตัดตรง ซึ่งจะต้องพิจารณาการใช้โครงสร้างอุโมงค์และสะพานบกเพื่อทำให้เส้นทางมีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย โดยพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้รอบด้าน โดยโครงการที่จะเป็นโครงการนำร่องทั้ง 3 เส้นทาง ทล. จะต้องดำเนินการออกแบบในขั้นตอนการเสนอแบบเบื้องต้น (Definitive Design) ให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะสามารถกำหนดกรอบวงเงินการลงทุนที่ชัดเจน ที่สามารถใช้ประกอบกับเอกสารเชิญชวนผู้รับจ้าง เพื่อที่จะผลักดันโครงการให้เป็นรูปธรรมต่อไป
ทั้งนี้ให้เน้นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เช่น การสร้างความรับรู้ของประชาชน การทำ Roadshow ของโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเส้นทาง MR8 (Landbridge ชุมพร-ระนอง) เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนต่อไป