เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
หนองคาย-จังหวัดหนองคายพบผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่ เป็นเด็กหญิงวัย 11 ปี กลับจากปราจีนบุรี ดันยอดสะสมขึ้นแตะ 70 ราย เหลือรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียง 6 ราย ผู้ว่าฯขอชาวหนองคายลงทะเบียนรับวัคซีนกันมากๆหลังตัวเลขลงทะเบียนได้ราว 30,000 คน ชื่นชมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานชายแดนเข้มข้นขณะที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำยังปลอดภัย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้( 17 พ.ค.) ที่ห้องประชุมสวัสดิ์ สัมพาหะ สำนักงานสาธารณสุข จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายแพทย์ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุข จ.หนองคาย แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ของจังหวัดหนองคาย พบว่ามีผู้ป่วยโควิดรายใหม่ นับเป็นรายที่ 70 ของจังหวัดหนองคาย เป็นเด็กหญิง อายุ 11 ปี ชาว ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ เดินทางกลับจากปราจีนบุรีถึงหนองคาย วันที่ 7 พ.ค.ได้มีการกักตัว มีประวัติเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน จ.ปราจีนบุรี และเข้ารับการตรวจผลเป็นบวก รักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองคาย
ทำให้ขณะนี้ จ.หนองคาย มียอดผู้ป่วยสะสม 70 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 64 ราย กำลังรักษา 6 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3 ราย, ปานกลาง 2 ราย และไม่มีอาการ 1 ราย ผู้ป่วยทุกคนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองคาย ส่วนโรงพยาบาลสนามไม่มีผู้ป่วย จึงได้ปิดชั่วคราว
นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สถานการณ์ของจังหวัดหนองคายขณะนี้เริ่มดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ ทุกคนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด การ์ดอย่าตก จะมีการผ่อนคลายมาตรการเฉพาะในส่วนสถาบันการศึกษาที่จะมีการเปิดภาคเรียน 1 มิ.ย.64 แต่สถานศึกษาทุกแห่งต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษา และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ส่วนจุดอื่น ๆ สถานบริการอื่น ๆ จะยังไม่มีการผ่อนปรน ต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะ
หากไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ คณะกรรมการโรคติดต่อจะมีการพิจารณาอีกครั้ง จ.หนองคาย ถูกปรับโซนใหม่ให้อยู่ในกลุ่มจังหวัด 1 ใน 56 จังหวัดควบคุม ไม่รุนแรง ซึ่งยอดผู้ป่วยที่พบใหม่นี้เป็นการติดจากพื้นที่อื่น เห็นได้ว่าในพื้นที่จังหวัดหนองคายทุกคนให้ความร่วมมือดี ด้านการปฏิบัติงานชายแดนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุ่มเทตรวจสอบแนวป้องกันชายแดน โดยเฉพาะการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทำให้ไม่มีปัญหาการติดเชื้อจากแรงงานต่างด้าว
ในส่วนของเรือนจำจังหวัดหนองคายได้มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก ผู้ต้องขังทั้งหมดประมาณ 1,800 คน ตรวจแล้ว 871 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำ 70 คน ไม่พบเชื้อ โดยเรือนจำมีมาตรการป้องกันโรคสูงสุด มีการกักตัวผู้ต้องขังแรกรับในพื้นที่กักของเรือนจำ 21 วัน และมีการใช้ระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นกับศาล
ในส่วนของการลงทะเบียนรับวัคซีน ขณะนี้มีคนลงทะเบียนแล้วประมาณ 30,000 คน จากเป้าหมายผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มเสี่ยง ประมาณ 130,000 คน ยังอยู่ในจำนวนน้อย ซึ่งจะมีการรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีน ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนให้มากที่สุด ทั้งการลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่นของหน่วยงานรัฐ และการลงทะเบียนผ่าน อสม.ในพื้นที่ ต้องรณรงค์ให้มากขึ้น.