แขวงทางหลวงหนองคาย อัดงบ 15 ล้านบาท ลุยแก้จุดเสี่ยง “โค้งบ้านเวิน” ปรับปรุงโค้งกว้างขึ้น ลดหักศอก รองรับรถเข้าโค้งได้ดี เปลี่ยนเกาะสีเป็นแบริเออร์หุ้มยางพารา เดินทางเชื่อมจังหวัดปลอดภัย-ลดอุบัติเหตุท้องถนน
จันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 07.10 น.
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า แขวงทางหลวงหนองคาย สำนักงานทางหลวงที่ 3 (สกลนคร) ได้รายงานกรณีรถกระบะเสียหลักตกข้างทาง บริเวณถนนริมโขงหนองคาย-ท่าบ่อ บ้านเวิน ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย หรือ โค้งบ้านเวิน เมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 จากการวิเคราะห์เหตุที่เกิดขึ้นพบว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงหมายเลข 242 ตอนควบคุม 0102 ตอน หนองบัว-ท่าบ่อ กม.13+175-กม.14+175 โค้งบ้านเวิน ต.เวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย มีขนาด 4 ช่องจราจร ไป-กลับ เป็นเกาะสี ซึ่งทางกายภาพถนนมีความพร้อมในการเดินทาง ทั้งด้านผิวจราจรที่เรียบ ไม่ขรุขระ ติดตั้งป้ายเตือนทางด้านจราจรครบตามมาตรฐานการสร้างทาง โดยเฉพาะป้ายกำกับการใช้ความเร็ว แบ่งเป็น 3 จุด ได้แก่ 1.ก่อนถึงทางโค้ง กำหนดความเร็วอยู่ที่ 60 กม.ต่อชม. ช่วงใกล้เข้าโค้ง ความเร็ว 45 กม.ต่อชม. และ ช่วงโค้ง ความเร็ว 30 กม.ต่อชม. ติดตั้งราวกันอันตาย และไฟส่องสว่างเพิ่มการมองเห็นในช่วงเวลากลางคืนชัดเจน
ขณะเดียวกันส่วนหนึ่งคาดว่าอาจเกิดจากตัวผู้ขับขี่รถด้วยที่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ไม่ปฏิบัติตามป้ายจราจร รวมทั้งไม่คุ้นชินเส้นทาง ทำให้เวลารถเข้าโค้งเกิดเสียหลักหลุดโค้งลงข้างทางดังกล่าว ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุบริเวณนี้เมื่อปี 63 พบว่ามีจำนวน 1 ครั้ง และในปี 62 จำนวน 2 ครั้ง ส่วนแนวทางแก้ไขเบื้องต้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยผู้ใช้เส้นทางนี้นั้น หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว แขวงฯ ได้ติดตั้งป้ายเตือน 2 จุดเพิ่มเติม เช่น ป้ายทางโค้งข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งโปรดระมัดระวัง รวมทั้งติดตั้งไฟกระพริบก่อนเข้าโค้ง และเส้นชะลอความเร็ว (Rubber Strip) 2 จุดในสองทิศทาง
ส่วนการแก้ไขระยะยาว ขณะนี้แขวงฯ ได้รับจัดสรรงบประมาณในปี 64 จำนวน 14-15 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรังปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงและบริเวณอันตรายบนทางหลวงหมายเลข 242 ดังกล่าว โดยได้ลงนามสัญญาจ้างผู้รับจ้างแล้วเมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 12 มิ.ย.64 ใช้เวลาดำเนินการ 150 วัน เพื่อทำการปรับปรุงแก้ไขยกระดับโค้งให้สามารถรองรับรถที่จะเข้าโค้งได้ดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขยายโค้งด้านในให้กว้างขึ้น ลดการหักศอกของโค้งลง รวมทั้งปรับปรุงเกาะสีด้วยการใช้แผ่นยางธรรมชาติหุ้มกำแพงคอนกรีต (Rubber Fender Barrier : RFB) ตามโครงการนำยางพารามาใช้ เพื่อปรับปรุงอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยทางถนนบนถนนของ ทล. ระยะที่ 1 ในปี 63 ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม
เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น ลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณดังกล่าวได้ขณะเดียวกันขอความร่วมมือผู้ใช้ทางให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่ ใช้ความระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด อย่ามองป้ายจราจรเป็นแค่สิ่งประดับบนท้องถนน
สำหรับเส้นทางนี้เดิมทีเป็นพนังกั้นน้ำของกรมชลประทานที่เลียบริมแม่น้ำโขง ต่อมาในปี 2542 ได้มอบให้แขวงฯ ดูแลพัฒนาเป็นถนน 2 ช่องจราจรไป-กลับ ซึ่งเส้นทางนี้เชื่อมต่อไป อ.ท่าบ่อ และ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ทำให้มีปริมาณจราจรเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจะเป็นเส้นทางลัด จาก อ.เมือง ไป อ.ท่าบ่อ จากเดิมใช้เส้นทาง ทล.211 ซึ่งจะเป็นการเดินทางที่อ้อมและใช้เวลานาน ดังนั้นจึงขยายเส้นทาง จาก 2 ช่องจราจร ไป-กลับ เป็น 4 ช่อง ไป-กลับบางช่วง ปัจจุบันมีปริมาณจราจรอยู่ที่ 13,000 กว่าคันต่อวัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง รวดเร็ว ปลอดภัย ส่งเสริมการขนส่งและการท่องเที่ยวในจังหวัด
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%