อ้างเป็นบุคคลสำคัญ-เมียนายพล ขอเป็นเจ้าภาพกฐิน สุดท้ายไม่มาตามนัด ทำวัดสูญหลายแสน

มิจฉาชีพแสบแอบอ้างบุคคลสำคัญ หลอกขอร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินวัดหายโศก ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย โดยให้ทางวัดประสานวัดทั่วประเทศกว่า 300 วัดมารับกฐินรวมกว่า 6 ล้านบาท สุดท้ายไม่มาตามนัดทำวัดเสียหายหนัก ส่วนเจ้าอาวาสเดินทางไป สปป.ลาว ยังไม่สามารถติดต่อได้

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดหายโศก ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย หลังจากทราบข้อมูลว่าวัดได้ถูกมิจฉาชีพหลอกเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีแต่ไม่มาตามที่แจ้ง ทำให้วัดเสียหาย เกิดข้อครหาในสังคมเป็นอย่างมาก โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับพระมหาชัชชวาลย์ ยติโก เลขาฯเจ้าคณะตำบลสังคมเขต 2 และได้ให้ข้อมูลว่า ทางวัดได้กำหนดจัดงานทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างเสาหายโศก บูรณะอุโบสถ ระหว่างวันที่ 22-23 ต.ค. และทอดถวายในวันที่ 23 ต.ค. โดยได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะทางเพจเฟซบุ๊กของทางวัด

โดยก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมได้มีกลุ่มคนจำนวน 6-7 คน เดินทางมาพบกับพระมหาพิทักษ์ชัย จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหายโศก และเจ้าคณะตำบลสังคม เขต 2 โดยอ้างเป็นตัวแทนบุคคลสำคัญ และผู้หญิงที่เดินทางมาด้วยอ้างตัวเป็นภรรยานายพล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และได้แจ้งว่าให้ทางวัดหายโศกประสานวัดต่างๆ ทั่วประเทศเดินทางมารับกฐินกองละ 2-3 หมื่นบาท รวมเป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท และกลุ่มคนดังกล่าวจะถวายเงินเพิ่มให้ทางวัดอีก 1 ล้านบาท โดยในวันนั้นได้มอบลูกแก้วให้กับทางวัด 1 ลูก โดยบอกว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์

จากนั้น พระมหาพิทักษ์ชัย จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหายโศก และเจ้าคณะตำบลสังคม เขต 2 จึงได้บอกบุญแจ้งข่าวไปยังวัดต่างๆ รวมทั้งจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ เพื่อเชิญชวนคนมาทำบุญที่วัด

พระมหาชัชชวาลย์ ยติโก เลขาฯเจ้าคณะตำบลสังคมเขต 2 บอกอีกว่า จากนั้นเมื่อถึงวันงานทางผู้นำชุมชน ชาวบ้านได้เข้ามาช่วยเตรียมงานต่างๆ ภายในวัด และเริ่มมีพระจากวัดต่างๆ เดินทางมาที่วัดเป็นจำนวนมาก และทางวัดได้ว่าจ้างคณะหมอลำเพื่อมาทำการแสดงให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่มาทำบุญได้รับชมอีกด้วย และเมื่อพระมหาพิทักษ์ชัย จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหายโศก และเจ้าคณะตำบลสังคม เขต 2 ได้โทรศัพท์ติดต่อกับเจ้าภาพกฐินกลุ่มดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย ทำให้สถานการณ์ในขณะนั้นเกิดความสับสนไปหมด และได้สั่งให้ทางวงหมอลำหยุดทำการตั้งเวทีทำการแสดงเนื่องจากไม่มีเงินจ้างแล้ว

โดยทางวัดได้รวบรวมเงินที่ได้จากผู้ที่มาทำบุญได้จำนวน 5 แสนบาท แต่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายเนื่องจากทางวัดเข้าใจว่าเจ้าภาพกฐินเป็นคณะใหญ่จึงได้จัดงานโดยเชิญทั้งพระและประชาชนจำนวนมากก็เดินทางมาร่วมทำบุญ ภายหลังงานกฐินแล้วเสร็จในวันที่ 24 ต.ค. พระมหาพิทักษ์ชัย จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหายโศก และเจ้าคณะตำบลสังคม เขต 2 ได้หายออกจากวัด จนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้ทำให้เกิดข้อครหามากมาย

พระมหาชัชชวาลย์กล่าวอีกต่อไปว่า อาตมายืนยันว่า พระมหาพิทักษ์ชัย จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหายโศก และเจ้าคณะตำบลสังคม เขต 2 ที่หายออกจากวัดไปอาจด้วยความตกใจ เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเงินทำบุญในวันที่ 22-23 ต.ค. ก็ได้มอบให้กับคณะกรรมการวัดทั้งหมด และเงินในบัญชีของท่านก็ไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว จากกระแสที่ว่าท่านหอบเงินหนีจากวัดจึงไม่เป็นความจริง จึงอยากขอให้สังคมรอท่านกลับมาชี้แจงจะดีที่สุด

ด้านนายพัฒนชัย รวมสิน สารวัตรกำนันตำบลสังคม กล่าวว่า เมื่อทางผู้นำชุมชนทราบว่าทางวัดจะจัดให้มีการทอดกฐินระหว่างวันที่ 22-23 ต.ค. ได้เข้ามาช่วยเตรียมงานช่วยกันเต็มที่ เนื่องจากทางชุมชนก็เข้าใจว่าเป็นกฐินที่ใหญ่มีเงินมาทำบุญเป็นจำนวนมาก และตนขอยืนยันว่า พระมหาพิทักษ์ชัย จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหายโศก และเจ้าคณะตำบลสังคม เขต 2 ไม่ได้หอบเงินที่ญาติโยมนำมาทำบุญหนีไป เพราะเงินทุกบาทคณะกรรมการวัดเป็นผู้ดูแลรวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่พอจ่าย

จากการตรวจสอบพบว่า พระมหาพิทักษ์ชัย จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหายโศก และเจ้าคณะตำบลสังคม เขต 2 ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยไป สปป.ลาว ผ่านทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 24 ต.ค. จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ในทุกช่องทาง