อ.สระใคร จ.หนองคาย เร่งเตรียมงานบุญเบิกฟ้าบูชาพระธาตุรวงข้าวหนึ่งเดียวในโลก

อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เร่งเตรียมความพร้อมการจัดงานบุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ และของดีจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2564 เป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 19 – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่า 80% ไฮไลท์ของงานนอกจากจะมีพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ สูงถึง 32 เมตร หนึ่งเดียวในโลกแล้ว ยังมีหุ่นจักสานไม้ไผ่สานยักษ์ ความสูงไม่ต่ำกว่า 4 เมตร จำนวน 9 ตัว ที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานเช่นเดียวกัน

ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย และพื้นที่โดยรอบ นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จิตอาสา และประชาชนชาวอำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย วันละไม่ต่ำกว่า 50 คน ได้ออกมาร่วมแรงร่วมใจกันเร่งเตรียมความพร้อมในการจัดงานเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์และของดีจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2564 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอสระใครและพื้นที่โดยรอบ ที่จะเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้เร่งสร้างพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ ที่มีความกว้างมณฑลรอบองค์พระธาตุ 20 เมตร ความกว้างขององค์พระธาตุ 7 เมตร สูง 32 เมตร และส่วนประกอบโดยรอบ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าในการเตรียมงานฯ ไปแล้วกว่าร้อยละ 80 ช่วงนี้จะเป็นการมัดรวงข้าวและนำรวงข้าวขึ้นประดับพระธาตุรวงข้าวฯ กำแพง และซุ้มประตูรอบพระธาตุรวงข้าวฯ ปีนี้ใช้มัดขัดมากกว่า 2 แสนมัด รวงข้าวนับล้านรวงประดับตกแต่ง ส่วนหุ่นจักสานไม้ไผ่ยักษ์ ที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 4 เมตร จำนวน 9 ตัว ได้สานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการเก็บรายละเอียดเล็กน้อย จัดให้เป็นระเบียบ และประดับไฟแสงสีเพิ่มความสวยงามยามค่ำคืน และการสร้างหุ่นสานยักษ์ตัวพิเศษที่บริเวณประตูทางเข้าเท่านั้น

นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร กล่าวว่า งานบุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ และของดีจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2564 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 19 – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ทุกภาคส่วนในอำเภอสระใคร ได้ร่วมไม้ร่วมมือกันเตรียมความพร้อมในการจัดงานที่จะมีขึ้นครั้งนี้มาเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน รูปแบบงานในปีนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ชมพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังมีหุ่นจักสานไม้ไผ่สานยักษ์ ที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานเช่นเดียวกัน ซึ่งปีนี้จะมีหุ่นจักสานไม้ไผ่ยักษ์ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษตัวใหม่ จะเป็นหุ่นอะไรนั้นต้องมาพิสูจน์กันเอง นอกจากนี้ภายในงานยังจะมีการจัดประกวดทะเลตุงที่ทำจากดอกฝ้าย ถนนสายตุงแบบสามมิติที่ถือเป็นอเมซิ่งไทยแลนด์ได้อีกที่หนึ่ง และมีอุโมงค์ไม้ไผ่ประดับโคมไฟสวยงาม ให้ได้ชมและขึ้นไปถ่ายภาพที่ระลึกได้สวยงามอีกจุดหนึ่ง

นายอำเภอสระใคร กล่าวต่อไปอีกว่า พระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ ที่ถือเป็นไฮไลท์ในงานมีความกว้างมณฑลรอบองค์พระธาตุ 20 เมตร ความกว้างขององค์พระธาตุ 7 เมตร สูง 32 เมตร ส่วนหุ่นจักสานไม้ไผ่สานยักษ์ ความสูงไม่ต่ำกว่า 4 เมตร จำนวน 9 ตัว ซึ่ง 8 ตัวจะสื่อความหมายถึงทิศทั้ง 8 ทิศ ที่จะใช้ในการทำนายดินฟ้าอากาศ ส่วนหุ่นจักสานยักษ์อีก 1 ตัวจะสื่อถึงพระยาแถน คือหุ่นจักสานที่เป็น คางคก ซึ่งเป็นผู้ควบคุมควบคุม ฝนและลมฟ้าอากาศ ในส่วนของพิธีเปิดจะใช้นางรำทั้งหมด จำนวน 700 คน รูปแบบการรำจะเป็นการรำบูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ และในปีนี้จะมีการรำบวงสรวงหลวงพ่อพระศรีอารย์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ของอำเภอสระใคร ที่ชาวอำเภอสระใคร และชาวหนองคายให้ความนับถือ เพิ่มเข้ามาจากเดิมอีกชุดหนึ่งด้วย ระยะเวลารำบวงสรวง ประมาณ 15 นาที และในปีนี้ยังมีการปรับรูปแบบจากม่านน้ำพุในปีที่ผ่านมา เป็นม่านพลุไฟ ความยาวประมาณ 20 เมตร มีการจุดพลุไฟประกอบแสงสีเสียง ให้เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ที่มาเที่ยวชมงาน โดยจัดแสดงในเวลา 20.00 น.ของทุกวัน

สำหรับมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นทางอำเภอสระใคร ได้จัดเจ้าหน้าที่จำนวน 3 ชุด ๆ 15 คน เพื่อตรวจคัดกรองผู้ที่จะเข้าร่วมงานฯทุกคน ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย และมีเจลล้างมือไว้บริการ อีกทั้งยังได้เตรียมเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลไว้ภายงานอีกด้วย

ในตอนท้าย นายอำเภอสระใคร ได้ฝากถึงผู้ที่จะมาเที่ยวชมงานฯ ว่าตนในนามชาวอำเภอสระใครของเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดหนองคายและจังหวัดใกล้เคียง ได้มีเที่ยวชมงานบุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ และของดีจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2564 ปีนี้เป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งจะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา และจะมีสิ่งแปลกใหม่ให้ผู้ที่มาชมงานได้ดื่นตา ตื่นใจ ตนขอรับรองว่า ทั้งกล้องมือถือและกล้องถ่ายภาพของผู้ที่มาเที่ยวงาน จะได้ภาพที่สวยงามและประทับใจกลับไปทุกคน.