กรมราง เช็กอัพทางคู่ทั่วไทย เร่งดัน “ขอนแก่น-หนองคาย” ให้เกิดปีนี้ หลังลาวทำไฮสปีดคุณหมิง – เวียงจันทน์เสร็จปลายปี จี้ “รถไฟ” ส่งคำตอบสภาพัฒน์
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2564 นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการรถไฟระหว่างเมือง ครั้งที่ 1/2564 โดยได้ร่วมกันพิจารณาใน 2 ประเด็น ได้แก่
1) ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และทางสายใหม่ ซึ่งได้มีการติดตามความคืบหน้า ปัญหาและอุปสรรคโครงการ ความคืบหน้าการดำเนินการตามผลการประชุมติดตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องโครงการรถไฟทางคู่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 และเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564
ที่มีข้อสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 การนำแนวคิดเรื่อง MR-MAP มาพิจารณาร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 และทางสายใหม่ การจัดทำแผนการดำเนินงานในรายละเอียด รูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟช่วงที่ผ่านตัวเมือง จุดตัดทางรถไฟที่ต้องกำหนดรูปแบบมาตรฐาน และการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟกับสถานีขนส่งสินค้า
รวมทั้งติดตามความคืบหน้าการทบทวนกรอบวงเงินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร – ชุมทางถนนจิระด้วย
2) ความคืบหน้าการเสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ซึ่งต้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และสำนักงบประมาณ ให้ครบถ้วนก่อนนำเสนอกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่และทางสายใหม่ และให้ ร.ฟ.ท. นำเสนอการดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการประชุมติดตามนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเรื่องโครงการรถไฟทางคู่ในครั้งต่อไป และให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งเสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ต่อกระทรวงคมนาคมโดยเร็ว
เร่งพิจารณา “ขอนแก่น-หนองคาย” ปีนี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ฝ่ายนโยบายตั้งใจที่จะผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น – หนองคาย 14 สถานี ระยะทางรวม 167 กม. วงเงิน 25,842 ล้านบาท ให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องประมูลและได้ตัวผู้รับจ้างให้ได้ภายในปี 2564 นี้
เนื่องจากรถไฟความเร็วสูง 160 กม./ชม. ช่วงคุนหมิง ประเทศจีน– นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ระยะทาง 414 กม. จะก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2564 นี้ ดังนั้น จะต้องเร่งแผนงานเพื่อต่อการเดินทาง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางให้ได้
โดยสถานะของโครงการตอนนี้ อยู่ระหว่างการตอบคำถามของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ใน 2 ประเด็นคือ โมเดลทางธุรกิจในการใช้รางรถไฟหลังรถไฟทางคู่เฟส 1 แล้วเสร็จ และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจเมื่อดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางดังกล่าว ซึ่งได้เร่งให้ ร.ฟ.ท.ทำคำตอบกลับไปให้สภาพัฒน์พิจารณาอย่างเร็วที่สุด เพราะโครงการเองก็มีความพร้อมจะนำเสนอครม.นานแล้ว ปัญหาอุปสรรคต่างๆ เช่น รายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ก็ผ่านการพิจารณาแล้ว