เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
หนองคาย – แชร์ว่อนโซเชียล สามเณรวัดยอดแก้ว อ.เมือง จ.หนองคาย แต่งหญิงเที่ยวกลางคืนกินหมูกระทะ เจ้าอาวาสทราบเรื่องแล้วเตรียมพิจารณาร่วมกับคณะสงฆ์ หลังวัดเสื่อมเสีย ทำญาติโยมเสื่อมศรัทธา
จากกรณีที่มีเพจแม่ทัพลิง อินร่างทรง ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพที่เป็นภาพของพระรูปหนึ่ง รูปร่างท้วม นุ่งจีวร ถือตาลปัตร และภาพเล็กด้านข้างเป็นภาพผู้หญิงผมยาวใช้ตะเกียบคีบหมูกระทะกำลังจะเอาเข้าปาก
โดยมีข้อความในโพสต์ว่า “กลางวันทรงศีล ส่วนกลางคืนทรงหญิง ถถถ วัดยอดแก้ว อ.เมือง จ.หนองคาย ส่งเข้าประกวดนะจ๊ะ ตกดึกออกไปกับเพื่อนที่เป็นพระด้วยกันอีกรูปหนึ่ง ซึ่งโพสต์หน้าเดียว…(กู) จะลงเพิ่ม พระรูปนี้แต่งหญิงไปเที่ยวสถานบันเทิง กินหมูกระทะ เที่ยวแทบทุกวัน ส่วนคลิปเดียว….(กู) ลงให้โพสต์หน้า มีทั้งติ๊กต็อก เฟซปลอม ที่ไว้แต่งหญิง และเฟซบุ๊กที่ไว้เป็นพระ มารศาสนาแบบนี้เปลืองข้าวสุก” มีการแชร์โพสต์นี้ และมีผู้มาแสดงความคิดเห็นมากมาย
ล่าสุดวันนี้ (10 ส.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.หนองคายได้นำเรื่องดังกล่าวไปสอบถาม นายสยามพัชร์ ทิพสอน ผอ.สนง.พระพุทธศาสนา จ.หนองคาย ทราบว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดเหตุ แต่พอได้เห็นคลิปแล้วน่าจะเป็นสามเณร ไม่ใช่พระ ถ้าพูดถึงแล้วสามเณรก็เป็นเด็ก ยังไม่สามารถอุปสมบทเป็นพระได้ ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย แต่ถ้าสามเณรมีพฤติกรรมแบบนี้ก็เป็นอำนาจตามกฎมหาเถรสมาคม บท 11 ที่ให้อำนาจผู้ช่วยเจ้าอาวาส เจ้าอาวาส ณ วัดนั้นเป็นผู้มีอำนาจตรวจสอบ ขั้นร้ายแรงถึงขั้นสึกได้
ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.หนองคาย เป็นหน่วยงานภูมิภาคของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และไม่ได้มีอำนาจเหนือพระสงฆ์ใดๆ จะดำเนินการจับสึกพระไม่ได้ ต้องมีหนังสือร้องเรียนมาถึงสำนักงานพระพุทธศาสนา ก็จะแต่งตั้งคณะกรรมการ พร้อมทำหนังสือแจ้งฝ่ายปกครองของสงฆ์
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอที่มีตำแหน่งสูงขึ้น ให้ดำเนินการตรวจสอบ สำนักงานพระพุทธศาสนา โดยฝ่ายนิติกร จะเป็นผู้สอบปากคำว่ามีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนหรือไม่ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ หากเข้าข่ายไม่สมควรที่จะอยู่ในสมณเพศก็ต้องพิจารณา ที่สำคัญอย่าทำเสียศรัทธาญาติโยม
ส่วนบรรยากาศที่วัดยอดแก้ว เขตเทศบาลเมืองหนองคาย พบว่ามีพระสงฆ์อยู่ภายในวัดไม่มาก และมีญาติโยมมาช่วยกันก่อสร้างอาคารหลังเล็กๆ อยู่ภายในวัดด้วย ผู้สื่อข่าวได้พบกับ พระมหาพฤทธ์พิรุฬห์ รณญฺชยเมธี เจ้าอาวาสวัดยอดแก้ว และได้สอบถามรายละเอียดทราบว่า อาตมาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากเจ้าคณะตำบลแล้ว กำลังปรึกษาหารือกับคณะกรรมการวัด เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้วัดเสื่อมเสีย ที่ผ่านมาเคยมีพระพุทธรูปถูกขโมยมาก่อน และยังมีเหตุการณ์เช่นนี้อีก ทางวัดไม่ทราบว่าสามเณรรูปนี้มีพฤติกรรมเช่นนี้
เพราะหลังจากทุกรูปทำวัตรแล้วก็จะแยกย้ายกลับกุฏิตัวเอง จากที่เห็นในรูปแล้วยอมรับว่าเป็นสามเณรที่วัดจริง จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และจะดำเนินการทางพระวินัย จะถึงขั้นไหนต้องอยู่ที่ผลการพิจารณาของคณะกรรมการสงฆ์ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้วัดเสื่อมเสียไปมากกว่านี้อีก