ผู้ประกอบการนำทุเรียน 500 ตัน ส่งไปจีน ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่หนองคาย ก่อนขึ้นขบวนรถไฟจากลาวไปจีน มูลค่ารวม 90 ล้านบาท ศุลกากรเผยขั้นตอนการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรต้องทำให้ครบสมบูรณ์ เพราะจีนเข้มงวดมาตรการ “ซีโร่โควิด” ไม่จำเป็นจะไม่แกะ “ซีล”
วันที่ 21 เมษายน ที่ด่านศุลกากรหนองคาย มีรถบรรทุกเย็นของบริษัทสปีดอินเตอร์ทรานสปอร์ตจำกัด ซึ่งทำการบรรทุกทุเรียนจากล้งภาคตะวันออกของไทย จำนวน 500 ตัน มูลค่า 89,100,000 บาท จอดรอทำพิธีการผ่านแดนที่ด่านศุลกากรหนองคาย โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ตรวจสอบเอกสารใบขนส่งรถบรรทุก 27 คัน ตามระเบียบต้องรอให้รถครบจำนวนที่แจ้ง จากนั้นจึงจะสามารถเดินทางผ่านแดนได้ ทำให้มีการเข้าใจผิดว่าการดำเนินการล่าช้าและจะทำให้ทุเรียนตกค้าง
นายวุฒิ เร่งประดุงทอง นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า ในการขนส่งสินค้าผ่านแดนทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร พืชผัก ผลไม้ นับตั้งแต่มีการเปิดใช้รถไฟลาว-จีน พบว่าปริมาณสินค้าผ่านแดนทางด้านนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงนี้จะมีทุเรียนต้องการส่งออกไปประเทศจีนเป็นจำนวนมาก
“สินค้าประเภทนี้มีการซีลมา และมีการตรวจจากหน่วยเซอร์เวย์ของรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีนในประเทศไทย โดยทางจีนจะไปดูที่ต้นทางของผลผลิต เช่น ถ้าทุเรียนมาจากล้งที่จันทบุรี หรือล้งที่ระยอง จะมีการตรวจ การบรรจุ และมีการซีลที่เป็นเหมือนการรับรองของผู้ซื้อในประเทศจีน เหมือนเป็นการผ่านการดูแลมาในระดับหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรที่ประจำที่ล้ง จะทำการตรวจสอบแล้วจะส่งเลขซีลเข้ามาในระบบของศุลกากร หากนำส่งออกทางด่านศุลกากรหนองคาย ไม่ว่าจะทางรถยนต์หรือทางรถไฟ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชหนองคายจะเป็นผู้ตรวจซีลนี้ก่อน แล้วทำการออกใบไซโตซึ่งเป็นการยืนยันว่าเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัย ไม่มีแมลงหรือสารปนเปื้อน”
นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวอีกว่า เมื่อผ่านกระบวนการนี้แล้วผู้ประกอบการจะนำเอกสารเหล่านี้มาแนบกับใบขน ยื่นให้ศุลกากรทำการตรวจปล่อย หากขั้นตอนที่ว่านี้เรียบร้อย ศุลกากรสามารถตรวจปล่อยได้ทันทีในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง เนื่องจากสินค้าทางการเกษตรกรณีที่ไม่เปิดตู้เย็น ซึ่งจีนกำลังใช้นโยบายซีโร่โควิด (Zero COVID) คือ ซีลต้องไม่แตก ไม่มีการแกะซีล สามารถตรวจปล่อยได้เลย ซึ่งทางศุลกากรจะไม่ไปยุ่งเรื่องนี้เพราะหากซีลแตกจะมีปัญหา ทำให้ต้องเอาลงรถแล้วดูว่าสินค้าภายในนั้นได้รับความเสียหายอย่างไรหรือไม่และกรมวิชาการเกษตรจะเป็นผู้รับรองอีกทีหนึ่ง เพราะกรมวิชาการเกษตรก็ต้องระวังไม่ให้เกิดปัญหาการสวมทุเรียนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือหากมีผู้ไม่หวังดีกับผลไม้ไทยด้วยการนำผลไม้ที่ติดโควิด มีสารปนเปื้อนใส่เข้าไปหรือซีลแตก ทางจีนก็มีความกังวล ดังนั้น กระบวนการดังกล่าวเป็นเหมือนการควบคุมความสะอาดและคุณภาพป้องกันการปนเปื้อนไปแล้ว ศุลกากรก็จะดำเนินการตรวจปล่อย ยกเว้นกรณีที่มีข้อสงสัยจริงๆ จึงจะดำเนินการ แต่ต้องแจ้งให้ทราบก่อน.